รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
แสงแดด
แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในรองเท้าให้หมดไป โดยการนำรองเท้ามาตากแดดไว้ประมาณ 1 – 2 วัน นอกจากจะช่วยให้รองเท้าสะอาดขึ้นแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นอับได้ดีอีกด้วย
ผงฟู
โดยการนำผงฟูมาโรยไว้ในบริเวณรองเท้าให้ทั่ว จากนั้นทิ้งไว้เป็นเวลา 1 วัน ผงฟูจะทำหน้าที่ดูดซับกลิ่นอับในรองเท้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
หนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์ช่วยกำจัดเชื้อราและ กลิ่นอับได้เป็นอย่างดี โดยการนำหนังสือพิมพ์ขยำเป็นก้อนๆ แล้วนำไปยัดไว้ในรองเท้า ทิ้งไว้เป็นเวลา 1 คืน จะช่วยกำจัดปัญหากลิ่นอับในรองเท้าได้
เกลือ
อีกหนึ่งตัวช่วยที่สะดวก และหาได้ง่ายในครัวเรือน โดยการนำเกลือมาโรยไว้ในรองเท้าประมาณ 1 คืน เกลือจะทำหน้าที่ดูดซับความชื้น ส่งผลให้กลิ่นอับหมดไป
ใช้สเปรย์กำจัดกลิ่น
ถ้ารองเท้าเหม็นเพราะเท้าของเราเหม็น ก็ต้องใช้สเปรย์กำจัดกลิ่นนี่ล่ะ ไม่ต่างอะไรกับสเปรย์กำจัดกลิ่นกายใต้วงแขน
ใช้เบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดาเป็นสิ่งที่ทุกคนมีไว้ติดบ้านเลย เพราะมันมีประโยชน์ช่วยชีวิตเราได้หลายอย่างมาก แถมยังไม่เป็นอันตราย กินได้ด้วย สำหรับเรื่องการขจัดกลิ่น ให้เอาถุงเบคกิ้งโซดา ไปวางไว้ในรองเท้าให้มันช่วยดูดกลิ่นเหม็นๆ ที่อยู่ในรองเท้าแบบข้ามคืน คนที่ไม่มีถุงดีๆ ก็เอาถุงเท้าใส่เบคกิ้งโซดาแล้วยัดใส่รองเท้าไปเลย ระหว่างที่เรากำลังหลับ ก็ให้มันทำหน้าที่ดูดกลิ่นไป
เปลี่ยนพื้นรองเท้า
ความเหม็นของรองเท้าบางทีมันก็ฝังแน่นจริงๆ ล้างแล้วไม่รู้กี่รอบมันก็ยังเหม็น โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบ เพราะกลิ่นที่ว่ามันฝังตัวอยู่ในพื้นรองเท้าจนเอาไม่ออกแล้ว ทางที่ดีเปลี่ยนพื้นรองเท้าด้านในไปเลย ถ้านอกยังดีอยู่ก็เอามันไว้ก่อน ทำเองได้ไม่น่ายากมาก แต่ถ้าเป็นรองเท้าส้นสูง อาจต้องขอให้ร้านช่วยทำหน่อย จะได้ดูเนียนๆ