ปัญหาตอนท้องที่ผู้หญิงต้องเจอ “สิว”

ถ้าพูดถึงเรื่องสาเหตุการเกิดสิว ผู้หญิงจะมีมากกว่าผู้ชายโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับฮอร์โมน หรือที่เรียกว่าสิวฮอร์โมน และสาเหตุนี้เองที่เป็นที่มาของเรื่องที่เราจะพูดถึงในวันนี้ เรื่องที่ว่าก็คือ "สิวตอนท้อง" นั่นเอง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสิวประเภทนี้กันก่อนว่ามันคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สาเหตุของสิวตอนท้อง

สาเหตุการเกิดสิวตอนท้องนั้นมาจากฮอร์โมนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะช่วงที่ท้องหรือกำลังตั้งครรภ์อยู่ระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะแปรปรวนคล้ายกับคนที่ชอบเป็นสิวก่อนมีประจำเดือน คือ ฮอร์โมนจะทำให้ผิวมันขึ้น ผิวหนังเกิดการอุดตันง่าย นอกจากนี้ความเครียด ความกังวล และอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของว่าที่คุณแม่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวเห่อหนักเข้าไปอีก บางคนตอนยังไม่ท้องสิวไม่มีสักเม็ด แต่พอท้องเท่านั้นแหละสิวมาจากไหนไม่รู้ระเบิดขึ้นมาเต็มหน้า ทำเอาเครียดไปตามๆกัน
ใครที่สามารถเป็นสิวตอนท้องได้บ้าง
จริงๆแล้วไม่มีตัววัดใดๆที่บอกได้ว่าผู้หญิงคนไหนจะเป็นสิวตอนท้องบ้าง ทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยเป็นสิวมาก่อนก็อาจเป็นสิวตอนท้องได้เช่นกัน ยังไงก็แล้วแต่มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอาจมีความเสี่ยงในการเป็นสิวตอนท้องมากกว่า กลุ่มที่ว่าคือ กลุ่มที่ชอบเป็นสิวก่อนมีประจำเดือนนั่นเอง ใครที่เป็นสิวฮอร์โมนและกำลังวางแผนมีลูก ควรเตรียมรับมือกับปัญหาสิวตอนท้องเอาไว้ได้เลย ส่วนต้องทำยังไงบ้างวันนี้ Acnedefend มี "วิธีดูแลรักษาสิวตอนท้อง" มาฝาก ตามมาดูได้เลย

วิธีดูแลรักษาสิวตอนท้อง

ดูแลผิวหน้าตามปกติ

ถึงแม้ว่าตอนท้องหน้าจะมันสิวจะขึ้นมากกว่าปกติ แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องดูแลผิวหน้ามากกว่าปกติ หรือดูแลผิวหน้าเกินความจำเป็น อย่างบางคนเห็นหน้าตัวเองมันมากก็เลยล้างหน้าใหญ่เลยหน้าจะได้หายมันสิวจะได้หาย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด ยิ่งเราล้างหน้ามากเท่าไรหน้าจะยิ่งมันและสิวจะยิ่งขึ้นมากเท่านั้น ดังนั้นวิธีการดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องก็คือ ล้างหน้าไม่เกินวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวเน้นที่อ่อนโยน ไม่ชะล้างความมันบนผิวหน้ามากเกินไป งดทาครีมบำรุงหรืองดแต่งหน้าไปก่อน พยายามรบกวนผิวหน้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิวจะได้ไม่ลุกลามมากขึ้น

ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยารักษาสิว

เวลาหน้าเป็นสิวสิ่งที่คนเรานึกถึงก่อนก็คือการหายารักษาสิวมาใช้ ซึ่งยารักษาสิวจะแยกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ ยากินกับยาทา ถ้าเราเป็นสิวในช่วงเวลาปกติการเลือกใช้ยาก็จะไม่เข้มงวดมากขึ้นอยู่กับอาการสิวซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเราเปลี่ยนสถานะเป็นคนท้องเมื่อไร การเลือกใช้ยารักษาสิวที่ปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะยารักษาสิวบางตัวอาจทำให้เด็กในท้องพิการได้ ตัวอย่างยาต้องห้ามสำหรับคนท้อง เช่น Tretinoin, Isotretinoin, Adapaleno , Tetracycline, Doxycycline และ Minoeyeline เห็นชื่อยาบางคนอาจไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร เอาเป็นว่าผมบอกตัวอย่างยาที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกหน่อยดีกว่า เช่น ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ และอนุพันธุ์ของกรดวิตามินเอ , Retin-A , Differin , Isotrexin , ยาลดฮอร์โมน คนท้องควรงดใช้ยาเหล่านี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยากิน มันอันตรายต่อเด็กในท้อง เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่เป็นสิวตอนท้องและกังวลกับปัญหาสิวที่เกิดขึ้น แนะนำให้ไปหาหมอดีที่สุดครับ หมอจะแนะนำว่ายาอะไรทาได้ ยาอะไรกินได้ ปลอดภัยกว่ากันเยอะ

เลเซอร์ ทรีทเม้นท์ ไม่ต้องไปทำ

คนท้องบางคนอาจกังวลกับปัญหาสิวบนหน้ามากเกินไป ก็เลยอยากไปทำเลเซอร์หรือทำทรีทเม้นท์ เผื่อสิวบนหน้าจะได้ลดจำนวนลงบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ขอบอกเลยว่าไม่ต้องไปเสียเวลาทำ เพราะมันแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลย อย่าลืมว่าสิวที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มันคือสิวฮอร์โมน เราเป็นสิวเพราะความแปรปรวนจากภายในร่างกายเป็นหลัก แทบไม่เกี่ยวกับปัจจัยภายนอกสักเท่าไร ถึงแม้ว่ามันอาจช่วยให้สิวลดลงได้บ้างแต่เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาใหม่ คือถ้าทำตอนท้องเหมือนจะเสียเงินไปเปล่าๆไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย และที่สำคัญความจริงของสิวแบบนี้ก็คือ"มันจะหายไปเองเมื่อเราคลอดลูกแล้ว" ระดับฮอร์โมนจะกลับเข้าที่ หน้ามันน้อยลง และฮอร์โมนเพศหญิงก็จะกลับมาช่วยเพิ่มความสวยให้กับผิวพรรณเรามากขึ้น ช่วยให้สภาพผิวหน้าของเราดีขึ้น สิวจะค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุด ที่เหลือก็มานั่งรักษารอยสิวต่อไป ขอแค่พยายามอย่าให้หน้าเป็นแผลเป็นลึกหรือหลุมสิวก็พอ รอยสิวธรรมดารักษาไม่นานก็หายไม่ต้องกังวลครับ

     สิวตอนท้องเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก คนจะเป็นยังไงก็ต้องเป็นป้องกันอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่คนท้องพอทำได้ก็คือการดูแลรักษาผิวหน้าที่เป็นสิวให้ดี อย่าให้สิวลุกลามมาก งดการบีบแกะสิวโดยไม่จำเป็น และที่สำคัญควรลดความเครียด ความกังวล ควบคุมอารมณ์ให้ดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปที่ลูก เดี๋ยวลูกเกิดมาอารมณ์ไม่ดีเหมือนหน้าตานะ พอลูกเราเกิดมาเดี๋ยวสิวที่ขึ้นก็จะหายไป กลับมาหน้าใสได้ไม่ยากครับ 

ขอบคุณรูปภาพจาก : http://cq.lnwfile.com/_/cq/_raw/5h/8q/if.jpg

ที่มา : http://acnedefend.blogspot.com/2014/09/acne-in-pregnancy.html