รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
เปลือกกล้วยประกอบไปด้วยวิตามิน A, B, C, E และแร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก และแมกนีเซียม ซึ่งสารอาหารเหล่านี้สามารถลดการอักเสบของสิวได้ สรรพคุณมากมายขนาดนี้ เรามาดูขั้นตอนการรักษาสิวด้วยเปลือกกล้วยกันดีกว่าค่ะ
- ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน และซับผิวให้แห้ง (อย่าสครับผิวหรือถูผิวหน้าแรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวและสิวเกิดการอักเสบ)
- เลือกใช้กล้วยสุก เพราะใช้เช็ดบริเวณที่เป็นสิวได้ง่ายกว่า
- กินกล้วยให้หมด หรือเก็บไว้ใช้ประโยชน์อื่นๆ แล้วหั่นเปลือกกล้วยให้เป็นชิ้นพอประมาณ
- ใช้เปลือกกล้วยด้านในที่มีสีขาวถูหรือนวดให้ทั่วผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว ประมาณ 10 นาที หากเปลือกด้านในเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ให้เปลี่ยนไปใช้เปลือกกล้วยชิ้นใหม่
- ทิ้งไว้บนผิวให้นานที่สุด เพื่อให้ผิวของเราได้ดูดซึมสารอาหารจากเปลือกกล้วยได้อย่างเต็มที่ หากไม่มีเวลามาก จะทาก่อนนอนแทนสลีปปิ้งมาส์คเลยก็ได้ แล้วค่อยตื่นขึ้นมาล้างตอนเช้า
- ทำอย่างนี้เป็นประจำ คุณจะสังเกตได้ว่าสิวจะค่อยๆ ลดลง หรืออย่างน้อยก็ไม่ค่อยมีรอยแดงที่เกิดจากสิวแล้ว
ข้อมูลจาก : http://m.wikihow.com/Treat-Acne-With-Banana-Peels
