รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
2. ผักบุ้ง
3. ผักคะน้า
4. ตำลึง
5. ฝักทอง
6. มะละกอ
7. มะม่วงสุก
แครอท แครอทมีเบต้าแคโรทีนมากที่สุด มีวิตามินแร่ธาตุ วิตามินเอ ซึ่งช่วยในการบำรุงสายตาต่อแสงแดด และยังช่วยให้มีผิวที่ดีอีกด้วย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคมะเร็งได้ดี
ผักบุ้ง ช่วยบำรุงสายตา ไม่ทำให้ปวดสายตา สายตาสั้น แสบตา ต้องกินผักบุ้งดิบมีทั้งวิตามินเอและวิตามินซี รวมถึงเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันมะเร็ง มีเกลือแร่ มีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด
ผักคะน้า คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างการจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตา เสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณและต้านทานการติดเชื้อ
ตำลึง มีคุณค่าทางอาหารสูง มีเบต้าแคโรทีน ที่ทำหน้าที่กรองแสงให้กับดวงตาป้องกันไฟเบอร์ของเลนส์ตาจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกออกซิไดซ์ด้วยแสง ป้องกันการเกิดต้อ และสามารถอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
ฝักทอง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ ระบบย่อยอาหาร บำรุงตับไต มีสารลูทีนป้องกันการเสื่อมของจุดหรือแสงสีของเรตินามีวิตามินเอบำรุงสายตามีเบตาแคโรทีนซึ่งมีสาร Antioxidant สูงจึงช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย
มะละกอ มะละกออุดมไปด้วย วิตามิน เอ บี1 บี2 แคลเซียม และเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอยก่อนวัย บำรุงสายตา
มะม่วงสุก มีวิตามิน เอ วี อี ฟอสฟอรัส ใยอาหาร บำรุงสายตา บำรุงเหงือกและฟัน ลดสิวลดริ้วรอย