สมคิด ดึงเอกชนแก้ปัญหาคอรัปชั่น


 สมคิด ดึงเอกชนแก้ปัญหาคอรัปชั่น

รองนายกรัฐมนตรี เผยรับบาลดึงเอกชนแก้ปัญหาคอรัปชั่น เร่งให้เกิดธรรมาภิบาล คาดจะทำให้จีดีพีขยายตัวตามไปด้วย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา “มาตรการภาคธุรกิจ ต้านทุจริตการติดสินบน” ว่า แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น คือ ภาครัฐและหน่วยงานอิสระต้องมีความเข้มแข็ง แผนงานไม่ใช่เขียนไว้เพียงในกระดาษ ทั้งนี้ยอมรับว่าการทุจริตได้กินลึกเข้าไปในศีลธรรมของคน เมื่อยอมรับว่าการทุจริตเป็นสิ่งไม่ดีแต่ยังยอมรับ ยอมจ่ายสินบนเพื่อให้ได้กำไร และอยู่ได้ในสังคม จึงเป็นเหมือนมะเร็งร้ายทำลายประเทศ จึงต้องหาทางยุติปัญหาดังกล่าวอย่างเด็ดขาด

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เพื่อส่งเสริมให้การประมูลงานของรัฐเป็นไปอย่างโปร่งใส การใช้ระบบ “ข้อตกลงคุณธรรม” เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชน บุคคลภายนอกเข้ามาติดตามโครงการลงทุน การประมูลงานภาครัฐ การส่งเสริมให้เอสเอ็มอีทำบัญชีเดียว นับว่ารายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มปรับสูงขึ้น

ตลอดจนนโยบาย E-Payment เพื่อให้เกิดการรับจ่ายเงินด้วยความโปร่งใสมากขึ้น การลดใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบด้านต่างๆ เมื่อธรรมาภิบาลเกิดขึ้นกับหลายหน่วยงาน จีดีพีจะขยายตัวเติบโตตามไปด้วยและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยต้องมีบทลงโทษเฉียบขาด

นายสมคิด กล่าวว่า พลังประชาชน ภาคเอกชน มีส่วนสำคัญเพราะมีพลังสูงมาก อย่ามองเพียงว่าการป้องกันปัญหาทุจริต เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล ป.ป.ช. แต่ปัญหาจ่ายสินบน การทุจริตมากเท่าใด เป็นการสะท้อนสังคมที่ไม่เข้มแข็ง อ่อนแอ

เนื่องจากประเทศพัฒนาแล้วมีแนวทางป้องกันปัญหาทุจริตได้ดี เพราะประชาสังคมเข้มแข็ง เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หากใครทุจริต จะอยู่ในสังคมลำบาก เกาหลีได้พัฒนารวดเร็วมากในด้านความโปร่งใส ผู้กระทำการทุจริตจะถูกสังคมตรวจสอบ ประเทศตะวันตกสอนอบรมด้านความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งน่าละอาย จึงทำให้สังคมเข้มแข็ง ขณะที่ไทยใครทุจริตยังยืนยิ้มได้ในสังคม ดังนั้นรัฐบาลจึงต้อง การปลูกจิตสำนึกให้กับทุกคน