แนะเอสเอ็มอีค้าขายกับญี่ปุ่นระวังปัจจัยเสี่ยง


แนะเอสเอ็มอีค้าขายกับญี่ปุ่นระวังปัจจัยเสี่ยง

กระทรวงพาณิชย์ แนะผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่นระวังปัจจัยด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังการบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้น เนื่องจากผู้บริโภคจะไตร่ตรองในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่นจะต้องระวังถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่น จากการที่การบริโภคในประเทศที่ยังไม่เพิ่มขึ้น และการเน้นการจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นในต่างประเทศเพื่อลดการขาดดุลการค้า ซึ่งสินค้าที่สามารถจำหน่ายได้ในญี่ปุ่นนั้นจะต้องมีคุณภาพสูงและราคาที่แข่งขันได้ เนื่องจากผู้บริโภคจะไตร่ตรองในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ดี การร่วมลงทุนกับประเทศญี่ปุ่นโดยใช้เทคโนโลยีที่ดีของทั้งสองประเทศ และร่วมกันขายในประเทศอาเซียน อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทำธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เมื่อเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงการเลื่อนระยะเวลาปรับขึ้นภาษีบริโภคจาก 8% เป็น 10% เป็นครั้งที่ 2 จากเดิมที่กำหนดจะปรับขึ้นในเดือนเมษายน60 เลื่อนเป็นเดือนตุลาคม 62 หลังจากที่เคยประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีครั้งแรกจากเดือน ตุลาคม 58  เนื่องจากญี่ปุ่นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และความถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่ของโลก ดังนั้น การระดมนโยบายและมาตรการของรัฐทั้งหมดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะยังไม่เกิดเหตุการณ์ระดับวิกฤต แต่การปรับขึ้นภาษีจะทำให้อุปสงค์การบริโภคภายในประเทศอ่อนตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้ตัดสินใจเลื่อนระยะเวลาปรับขึ้นภาษีดังกล่าว โดยจะเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนระยะเวลาปรับขึ้นภาษีบริโภคต่อที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต่อไป นอกจากนั้น นายอาเบะ ได้เปิดเผยว่าจะออกมาตรการทางเศรษฐกิจโดยรวมครั้งใหญ่อีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 59 นี้