ก.อุตสาหกรรม ผนึก ก.มหาดไทย เตรียมจัดประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ ผู้ว่าฯ 77 จว. ในวันที่ 6 มี.ค.นี้ มอบนโยบายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ประชารัฐ 2 หมื่นล้าน แย้มเงื่อนไขให้เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ 1-3% มุ่งเป้าเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพระดับท้องถิ่นให้เกิดการพัฒนา คาดพร้อมอนุมัติเงินงวดแรกได้ใน 1-2 เดือนข้างหน้า
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ในวันที่ 6 มี.ค.ที่จะถึงนี้ นายอุตตมะ สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะร่วมกันจัดการประชุมผ่านระบบทางไกล (เทเลคอนเฟอเรนซ์) ร่วมกับผู้ว่าราชการ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงถึง “โครงการกองทุนพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ตามแนวทางประชารัฐ” วงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่จะมีการตั้งคณะกรรมการกองทุนฯ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นเลขาฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับหน้าที่คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวจะครอบคลุมทุกขั้นตอน เช่น การกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาเอสเอ็มอีของจังหวัด, พิจารณาผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด, ดูแลศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (เรสคิวเซ็นเตอร์) ให้คำปรึกษาการพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกัน ระหว่างรอกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีฯ ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาวงเงินปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี คาดว่าจะปล่อยสินเชื่องวดแรกให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้
นายสมชาย ระบุด้วยว่า เงื่อนไขกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวทางประชารัฐ จะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำประมาณ 1-3% ซึ่งแต่ละรายอาจได้อัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณา รวมทั้งแต่ละวงเงินอาจได้ดอกเบี้ยไม่เท่ากันด้วย เช่น ผู้ประกอบการ ก. ขอสินเชื่อ 15 ล้าบาท จำนวน 10 ล้านแรกอาจได้ดอกเบี้ย 1% ส่วน 5 ล้านหลังอาจได้ดอกเบี้ย 3% เป็นต้น โดยจะเน้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในการยกระดับพัฒนา เช่น กลุ่มเอสเอ็มอีหน้าใหม่ กลุ่มที่สามารถพัฒนาได้ แล้วต้องการเงินทุน ส่วนกลุ่มที่ต้องการการฟื้นฟู จะมีกองทุนพลิกฟื้นของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จำนวน 2,000 ล้านบาท ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับเงื่อนไขให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มที่เป็นหนี้เสีย และไม่เป็นเสียหนี้
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวถึงความสำเร็จในการประสานความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (Industry Transformation Center หรือ ITC) ในประเทศไทย ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยร่วมดำเนินงานภายใต้กระทรวงฯ จึงเตรียมเปิดศูนย์ ITC เดือนมีนาคม 2560 เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงหน่วยงานวิจัย หน่วยงานการศึกษา ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และนักนวัตกรรม หรือผู้ประกอบการที่เป็น Start Up โดยทำงานลักษณะประชารัฐ คือ นำผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาทำงานร่วมกับหน่วยงานวิจัย เพื่อสนับสนุนตอบโจทย์ผู้ประกอบการ โดยเน้นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ตามนโยบายรัฐบาลก่อน