รัฐบาลรัวกลอง พร้อมคิกออฟ 3 กองทุน วงเงิน 3.7 หมื่นล้าน อุ้ม“เอสเอ็มอี”


ก.อุตฯ และหน่วยงานร่วม พร้อมจัดงาน “SME Revolution : เส้นทางโอกาสเอสเอ็มอี 4.0” เปิดตัว 3 กองทุนหนุนเอสเอ็มอี วงเงินรวม 37,000 ล้านบาท ได้แก่  กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีประชารัฐ 20,000 ล้านบาท  กองทุนฟื้นฟู 2,000 ล้านบาทด้วย และสินเชื่อ SME Transformation Loan 15,000 ล้านบาท  ควบคู่กับเติมความรู้ มุ่งปูทางยกระดับเป็น “สมาร์ทเอสเอ็มอี” สร้าง ศก.จากท้องถิ่น

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรร เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (สสว.)  และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)  ร่วมกันจัดงานงาน “SME Revolution : เส้นทางโอกาสเอสเอ็มอี 4.0” ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพลนารี ฮอลล์ 2

 

ทั้งนี้ ความสำคัญของงานนี้ รัฐบาลต้องการผลักดันเอสเอ็มอีให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม จากมาตรการใหม่ที่จะออกมาทั้งในรูปแบบกองทุน และความรู้ เพื่อเป้าหมายยกระดับเอสเอ็มอีเป็นสมาร์ทเอสเอ็มอี สร้างให้เกิดการสร้างโครงข่ายใหม่ตามต่างจังหวัดเพื่อผลักดันเอสเอ็มอีเติบโตด้วยนวัตกรรม มากกว่าแค่การรับจ้างผลิต แต่สามารถมีนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าและเชื่อมโยงกับตลาดโลกได้

 

สำหรับในงานนี้ จะมีการเปิดตัว 3 กองทุนที่จะช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงินรวม 37,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ20,000 ล้านบาท ซึ่งวางเป้าหมายช่วยเหลือสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ด้านการเงินรวม 2,000 ราย  2.กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (สสว.) วงเงิน 2,000 ล้านบาทด้วย และ 3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (SME Transformation Loan) วงเงิน15,000 ล้านบาท ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)

 

“การจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลมุ่งหวังที่จะกระจายความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้แก่เอสเอ็มอีผ่านการประสานงานอย่างบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยมีทั้งด้านการเงิน ควบคู่กับการให้ความรู้ เพื่อเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอีและโอทอปให้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งทุกมิติและมีโอกาสก้าวไปสู่เวทีระดับภูมิภาค จนสร้างการพัฒนาที่มีศักยภาพและเสถียรภาพให้เศรษฐกิจไทยได้ต่อไปในอนาคต” รัฐมนตรีอุตสาหกรรมกล่าว

 

ด้านนายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า  กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ 20,000 ล้านบาท ต้องการส่งเสริมเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในแต่ละจังหวัด   โดยสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียงแค่ 1%  ระยะเวลาคืน 7 ปี วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา โดยมีผู้ว่าฯ  แต่ละจังหวัดเป็นประธาน  ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เป็นคณะกรรมการ และเอสเอ็มอีแบงก์เป็นเลขานุการ

 

สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกนั้น 1.ต้องเป็นเอสเอ็มอีที่มีขีดความสามารถที่จะเติบโตได้ แต่ประสบปัญหาทางธุรกิจ   และ2.ต้องเป็นกลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์การพัฒนายุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัด

 

ด้านมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า  สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (SME Transformation Loan) วงเงิน 15,000 ล้านบาท จะเข้ารับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 7 มี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยมุ่งปล่อยสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีที่นวัตกรรม เทคโนโลยี    ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้ประกอบการรายดั้งเดิม หรือเกิดใหม่อย่างสตาร์ทอัพ เงื่อนไขของสินเชื่อดังกล่าว วงเงินปล่อยกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยคิด 3%ต่อปี  ระยะเวลาใช้คืน 7 ปี โดยช่วง 2 ปีแรก ไม่จำเป็นต้องชำระเงินต้น  ตั้งเป้าว่าจะอนุมัติเฉลี่ยให้แก่เอสเอ็มอีได้ประมาณ  3 ล้านบาทต่อราย มีจำนวนเอสเอ็มอีที่ได้รับประโยชน์กว่า 5,000 ราย

 

ด้านนางสาลินี วังตาล  ผู้อำนวยการ สสว. เผยว่า กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี  สสว.  วงเงิน 2,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการที่ผ่านมาประมาณ 5 เดือน นับถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา  พิจารณาอนุมัติเงินกู้ระยะยาวปลอดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการขนาดย่อม จำนวน 251 ราย เป็นจำนวนเงิน 219.19 ล้านบาท (เฉลี่ยรายละ 0.87 ล้านบาท) แบ่งเป็นกองทุนพลิกฟื้น จำนวน 174 ราย เป็นเงิน 153.54 ล้านบาท (เฉลี่ยรายละ 0.88 ล้านบาท)  โดยหลักการจะช่วยเหลือเอสเอ็มอี ทั้งในรูปแบบให้เงินกู้ยืม ระยะยาวโดยไม่คิดดอกเบี้ย รวมถึงเข้าร่วมกิจการ หรือร่วมทุน หรือลงทุนกับเอสเอ็มอีที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินด้วย