“อุตตม” เผยบทสรุปการจัดงาน SME Revolution สร้างยอดโอกาสทางเศรษฐกิจกว่า 8,000 ล้านบาท และเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการทุกกลุ่มถึงมาตรฐานช่วยเหลือจากภาครัฐ
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า งาน “SME Revolution:เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี 4.0” ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 12มีนาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ผ่านมา ได้ผลสรุปผลในเบื้องต้นของการจัดงาน 3 วัน มีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 14,708 คน มีผู้ประกอบการขอกู้เงินภายในงาน รวม 960 ราย เป็นวงเงินรวม 2,722 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท จำนวน 282ราย วงเงิน 297 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วงเงิน 2,000 ล้านบาท จำนวน 230 ราย วงเงิน186.7 ล้านบาท และสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) วงเงิน 15,000 ล้านบาท จำนวน 142 ราย วงเงิน 581.3 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ประสงค์ยื่นกู้ ผ่านสื่อ Online ของเอสเอ็มอีแบงก์ในช่วงระหว่างงานอีก จำนวน 1,410 ราย จำนวนเงินรวม 5,211 ล้านบาท ในขณะที่ ธนาคารรัฐและเอกชนที่ร่วมออกบูธในงาน มียอดจำนวน 306 ราย วงเงิน 1,657 ล้านบาท
ในส่วนกิจกรรมอบรมสัมมนาให้ความรู้และการให้คำปรึกษาแนะนำ พบว่ามีผู้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาที่น่าสนใจที่จัดขึ้นในระหว่างงาน อาทิ Digital Marketing,การเข้าสู่ตลาด MAI, เปลี่ยนผ่าน SMEs สู่ยุค Industry 4.0, ถอดรหัส SMEs สู่วิถีความเป็นอัจฉริยะ (Intelligent SMEs) และอื่นๆ กว่า 20 หลักสูตร จำนวนรวม2,511 คน มีผู้เข้ารับคำปรึกษาแนะนำในเรื่องการดำเนินธุรกิจ 969 ราย โดยในระหว่างงานยังได้มีการถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ ผ่านสื่อ Social Online ซึ่งมีผู้รับชมวีดีโอถ่ายทอดสดต่างๆ รวม 76,326 ราย
ขณะที่การจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน มีผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธในงานประมาณ 80 ราย มียอดจำหน่ายสินค้ารวม 3.76 ล้านบาท ทำให้โดยรวมแล้ว ผลของการจัดงานในครั้งนี้ สร้างให้เกิดยอดมูลค่าโอกาสทางเศรษฐกิจกว่า 8,000 ล้านบาทแล้ว อีกทั้ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึงมาตรการและกลไกของภาครัฐในการสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่อยู่ในระยะเริ่มต้นของการทำธุรกิจ กลุ่มดำเนินธุรกิจอยู่แล้วและพร้อมที่จะยกระดับกิจการ ขยายการลงทุน และกลุ่มที่ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ แต่กิจการยังมีศักยภาพ