“อุตตม” แย้มเตรียมตั้ง พ.ร.บ.กองทุนฯ อุ้มเอสเอ็มอีเป็นการถาวร หนุนเงินช่วยเหลือแน่นอนทดแทนพึ่งงบประมาณจากส่วนกลาง คาดเสร็จภายในปีนี้ และเสนอ สนช.ได้ต้นปีหน้า ระบุผู้ประกอบการตื่นตัวยื่นขอสนับสนุนผ่าน 4 กองทุน 3.8 หมื่นล้านบาท แค่ 2 เดือน ยอดทะลุ 2.2 หมื่นล้าน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมร่าง พ.ร.บ.ฯ เช่น กรมบัญชีกลาง คณะกรรมการกฤษฎีกา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีมีความชัดเจนในระยะยาว โดยเฉพาะมีการตั้งวงเงินสนับสนุนเอสเอ็มอีที่แน่นอนในแต่ละปีแทนที่จะเป็นลักษณะการของบประมาณกลางมาสนับสนุนอย่างเช่นปัจจุบัน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ (2560) และเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในต้นปี 2561
ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนภายใต้ พ.ร.บ.ใหม่จะมีวงเงินสูงกว่าเงินกองทุนเอสเอ็มอี 20,000 ล้านบาทที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากวัดจากความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยื่นขอคำผ่าน 4 กองทุน เป็นจำนวนสูงมาก ได้แก่ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อทรานส์ฟอร์เมชันโลนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) วงเงิน 15,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วงเงิน 2,000 ล้านบาทและกองทุนพลิกฟื้นวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท โดยทั้ง 4 กองทุน เป็นวงเงินรวม 38,000 ล้านบาท โดยหลังเปิดยื่นคำขอมาเพียง 2 เดือน มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาขอใช้บริการแล้ว 8,699 ราย วงเงิน 22,510 ล้านบาท อนุมัติแล้ว 1,605 ราย วงเงิน 3,825 ล้านบาท โดยคาดว่าผู้ประกอบการจะยื่นคำขอทั้งหมดภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยต่อว่า รายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องพิจารณาเสียก่อนว่าจะมีเงินสนับสนุนแต่ละปีเท่าไร โดยจะดึงเงินเข้ามาอยู่ในกองทุนภายใต้ พ.ร.บ.ดังกล่าว เช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) แต่จะไม่ไปยุ่งเงินของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เนื่องจากมี พ.ร.บ.เป็นของตนเองรองรับอยู่แล้ว แต่จะปรับให้ทำงานสอดคล้องกันโดยเฉพาะ สสว.ยังเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอีในภาพรวม ส่วนกองทุนฯ จะดูแลในภาคปฏิบัติและสนับสนุนด้านการเงิน