คุณวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BOI)
เผยในรายการตอบโจทย์SME ว่า งานซับคอนไทยแลนด์ 2017 จัดมาเป็นปีที่ 11 แล้ว ซึ่งได้มองเห็นถึงศักยภาพของคนไทยนั้นเพิ่มพูนอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการออกนโยบายของภาครัฐจะเห็นได้ชัดถึงการกระตุ้นของอุตสาหกรรมไทย ซึ่งไทยยังเสียความได้เปรียบเรื่องค่าจ้างแรงงานที่มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยหรือทดแทนแรงงานให้มากขึ้น แต่มีความเชื่อมันว่าแรงงานไทยสามารถปรับเปลี่ยนตนเองได้อย่างแน่นอน
ส่วนข้อกำหนดของ SME ที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในครัวเรือน คือ การลงทุนยอดรวมที่เริ่มตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป เช่น การซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ สร้างโรงเรือน รวมกันเป็น 5 แสนบาทก็สามารถยื่นขอได้เลยที่ BOI

ด้านคุณวิโรจน์ ศิริธนาศาสตร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน
เผยว่า ปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมไทยทั้งหมด เช่น อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า , อุตสาหกรรมจักรยานยนต์ เป็นต้น จะเติบโตตามอุตสาหกรรมใหญ่ โดยในไตรมาสแรกมีการเติบโตแบบขั้นบันได ซึ่งภาพยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ส่วนการส่งออกรถยนต์ไทยในไตรมาสแรกโต 5% ส่งผลให้อุตสาหกรรมสนับสนุนก็เติบโตตามไปด้วย และยังไม่เผยอีกว่า การประกอบรถยนต์ของคนไทย สามารถทัดเทียมประเทศญี่ปุ่น และหากเทียบในอาเวียน ไทยแพ้เพียงแค่ชาติเดียว คือ สิงคโปร์ รวมถึงประเด็นของบัญชีนวัตกรรม ของภาครัฐจะช่วยทำให้คนไทยที่มีแนวคิดดีจนสามารถผลิตเป็นสินค้า แต่ไม่เป็นนิยมของคนไทยเนื่องจากเป็นสินค้าของคนไทย จึงนำสินค้าไปจดทะเบียนยังต่างประเทศ ตีแบรนด์เป็นของต่างประเทศ และประเทศไทยก็นำเข้ามา ซึ่งบัญชีนวัตกรรมจะเป็นการนำผู้ผลิตในลักษณะนี้กลับมาสู่ประเทศไทย

ทางด้านคุณชนาธิป สุรชัย สิทธิกุล นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย
เผยว่า สมัยมีการลงทุนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วจากค่ายรถยนต์ ทำให้ประเทศต้นทางอย่างญี่ปุ่น ไม่สามารถยกบริษัทชิ้นส่วนมาได้ ทาง BOI จึงได้นำผู้ปรกะอบการรายเล็กๆไปพบเจ้าของค่ายรถยนต์ แต่ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากมีขนาดเล็กเกินไป ยังไม่มีความสามารถที่จะป้อนชิ้นส่วนแก่ค่ายรถยนต์ได้ BOI จึงได้นำเสนอให้รวมกลุ่มเป็นเป็นสมาคม เพื่อพัฒนาให้รองรับกับอุตสาหกรรมรถยนต์และมีมาตรฐาน ISO9000 และ GS16949 ปัจจุบัน มีสมาชิกจำนวน 500 กว่าราย คาดว่ามีรายได้ในปีนี้เกือบ 2 แสนล้านบาทแน่นอน ส่วนในสมาชิกแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักๆตามวัตถุดิบ คือ พลาสติก ยางและพลาสติก โลหะ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ
ส่วนประเด็นการปรับเปลี่ยนรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์EV และการที่ภาครัฐสนับสนุน 10 อุตสาหกรรม หรือ New S-Curve ทำให้สมาชิกที่มีเครื่องจักรเดิมแต่อาจจะไม่สามารถผลิตให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าได้ จึงได้มองไปยัง 4 อุตสาหกรรมใหม่ ใน 10 อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการบิน , การแพทย์ , การเกษตร เป็นต้น
โดยสิ่งที่สมาชิกทำได้แล้วนั้น ประกอบไปด้วย ตู้แช่เลือด เตียงคนไข้ เก้าอี้ทำฟัน วีลแชร์ ขาเทียม สมาร์ทฟาร์มมิ่ง พลังงานทดแทน เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่สมาคมต้องการจากรัฐคือ มาตรฐาน เนื่องจากสมาชิกอยากพัฒนาสินค้าต่างๆข้างต้น เพื่อให้ได้มาตรฐานและขายไปยังภาครัฐและขยายไปยังต่างประเทศ
[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]