มูลนิธิสัมมาชีพ หนุนวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี 


ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ต้นแบบสัมมาชีพสร้างให้เต็ม เติมรากฐานให้แข็งแรง”  ระหว่างการจัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 60  ว่า จีดีพีในไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 3.7 ถึงแม้จะพอใจ แต่หากทุกฝ่ายร่วมกันรักษาการขยายตัวในระดับนี้จะได้เห็นจีดีพีขยายตัวร้อยละ 4-5  แต่หากไม่เร่งปฏิรูปในช่วงนี้จีดีพีไหลลดลงอย่างแน่นอน  จึงต้องใช้โอกาสนี้เร่งรัดการปฏิรูปในด้านต่าง ๆโดยเฉพาะการช่วยเหลือภาคเกษตร เอสเอ็มอี  ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหาแบงก์ไม่ปล่อยกู้ จึงขาดทุนหมุนเวียน  ขณะที่เกษตรกรไทยซึ่งมี 25 ล้านคนถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 40  ของประชากรทั้งประเทศ รัฐบาลจึงต้องมุ่งดูแลเพื่อให้เป็นฐานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบยั่งยืน

ทั้งนี้ยอมรับว่าโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาแข็งแต่เปลือก เติบโตไม่กระจาย คนจนจำนวนมากขณะที่คนรวยมีน้อยเพียงไม่กี่คน  ชาวนา เอสเอ็มอียังมีปัญหา ขณะที่เศรษฐกิจพึ่งพาแต่การส่งออกเพียงบริษัทกลุ่มเดียว  แนวคิด”ประชารัฐ”จึงเกิดขึ้นเพื่อให้ภาคเอกชนรายใหญ่มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยการช่วยเหลือในทุกด้านให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี หากรายย่อยอยู่ได้เอกชนรายใหญ่ก็อยู่รอด รัฐบาลจึงต้องดูแลฐานรากทั้งเสริมความรู้ พัฒนาแรงงานฝีมือ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน หลังจากได้เปิดลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคน และเตรียมเสนอครม.ในเร็ว ๆนี้เพื่อเริ่มให้สวัสดิการในเดือนตุลาคม ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องรถเมล์ รถไฟ ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า รวมทั้งนำเงินไปใช้จ่ายผ่านร้านค้าประชารัฐ  จึงต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อนำรายการสินค้าจำเป็นให้รายย่อยได้เลือกซื้อเพื่อลดภาระค่าครองชีพ พร้อมเตรียมดึงภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจมาร่วมบริจาคให้สวัสดิการคนรายได้น้อยเพิ่มเติมอีกด้านหนึ่ง ขณะนี้กำลังศึกษาแนวคิดดังกล่าว

ขณะที่ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัท พีทีที โกบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานสัมมาชีพเต็มพื้นที่กล่าวว่า  คณะทำงานด้านการพัฒนาคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New-S-Curve) ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนแม่บทไบโอชีวภาพเพื่อพัฒนาพัฒนา Bioeconomy ระยะ 10 ปี มูลค่าการลงทุนกว่า 400,000 ล้านบาท หวังผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ Bio Hub ในภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้ เนื่องจากไบโอชีวภาพเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในการส่งเสริมจากรัฐบาล

ส่วนการมอบมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ เพื่อส่งเสริมภาคเอกชน เอสเอ็มอี วิสหกิจชุมชน พัฒนามุ่งเข้าสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายแบบห่วงโซ่ ขณะนี้รัฐบาลและภาคเอกชนได้ทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐเพื่อให้เอกชนรายใหญ่ได้เป็นพี่เลี้ยง ช่วยแนะนำทั้งการผลิต บริหารจัดการ การตลาด เพื่อผลักดันวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอีได้มีช่องทางจำหน่าย พัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐานด้วยการผลิตสินค้าที่รับผิดชอบต่อสังคมทั้งด้านบริการ คุณภาพ  มูลนิธิสัมมาชีพจึงมอบรางวัลให้กับ “บุคคลธุรกิจต้นแบบ”  ให้กับนายตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) KCG ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนม แยม คุกกี้ ตราอิมพิเรียล เนยอวารี่  น้ำส้มซันควิก   นับเป็นบริษัทที่รับผิดชอบต่อสังคมและสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับชุมชนเกษตรกรในชนบทและชุมชนเมือง และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดดำเนินธุรกิจ

สำหรับรางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมนาชีพ วิสาหกิจชุมชนนาต้นจั่นสร้างรายได้จากการทอผ้า หัตกรรม และกิจกรรมการท่องเที่ยว จนทำให้ชุมชนมากกว่าร้อยละ 70 ของหมู่บ้าน, วิสาหกิจชุมชน อุ่มแสง ผลิตข้าวอินทรีย์จนได้มาตรฐาน สร้างรายได้ให้ชุมชนจากการขายข้าวอินทรีย์ 55 ล้านบาทต่อปี ขณะที่เอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพเป็นการเชื่อมข้อต่อระหว่างธุรกิจกับชุมชน เช่นบริษัท ทีเจ เฮ้าส์ จำกัด พัฒนาเครื่องสำอางจากรังไหมผ่านงานวิจัยกับมหาวิทยาลัย เพื่อแปรรูปจากไหมไปสู่เครื่องสำอางสร้างรายได้ให้ชุมชน เพื่อต้องการส่งเสริมให้ธุรกิจทุกประเภทดำเนินกิจการไปด้วยการรับผิดชอบต่อสังคม

ทางด้านนายตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) KCG  กล่าวว่าธุรกิจจะเติบโตได้ต้องรู้จักใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอจึงได้ตัดสินใจซื้อกิจการเนยอวารี่จากต่างชาตินำมาบริหาร  และตลอดการดำเนินธุรกิจไม่เคยปฏิเสธการเสนองาน แต่ยอมรับอย่างมีเงื่อนไข เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้เสนอผลงาน เพื่อนำมาพิจารณาชี้แนะอีกทั้งการประกอบธุรกิจยุคใหม่ต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสโลกไม่เช่นนั้นจะยืนได้ในตลาดอย่างลำบาก และต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า