คลัง เร่งรัดรีดภาษีออนไลน์


นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยถึงความคืบหน้าการออกกฎหมายเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) หรือภาษีอีคอมเมิร์ซ เช่น เฟซบุ๊ค กูเกิ้ล ยูทูบ และไลน์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปผลประชาพิจารณ์ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นมาเป็นจำนวนมาก ทางกรมสรรพากรต้อง สรุปและชี้แจงทุกความเห็น ก่อนที่จะส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบต่อไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีผู้แสดงว่าคิดเห็นในส่วนของกฎหมายอีคอมเมิร์ซเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้กรมสรรพากรต้องใช้เวลาในการสรุปผลประชาพิจารณ์ค่อนข้างนาน ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะเสนอให้กระทรวงการคลังและครม.พิจารณาได้เมื่อไร โดยการดำเนินการไม่ทันในเดือนกันยายนนี้แน่นอน แต่ยืนยันกรมจะเร่งให้ออกมาโดยเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษีและอุดรูรั่วจากธุรกรรมประเภทนี้  ที่ปัจจุบันขยายตัวสูงและเร็วมาก พบยอดขายของผ่านเฟซบุ๊คสูงถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกันยังยกเลิกระเบียบกรมสรรพากรที่ใช้มา 10 ปีที่ผู้ใช้ใบกำกับภาษีปลอมไม่เกิน 75 % ของใบกำกับภาษีทั้งหมดและมาชำระภาษีให้ครบจะไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เป็นให้ถูกดำเนินคดีอาญาทันทีเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการก็จะใช้ช่องทางนี้ใช้ ใบกำกับภาษีปลอม

“กรมสรรพากรจะเปิดช่องทางเว็บไซต์และไลน์ของกรมสรรพากรให้ประชาชนและผู้ประกอบการแจ้งเบาะแสการใช้ใบกำกับภาษีปลอม เพื่อให้กรมสรรพากร ดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดต่อไป เพราะปัญหานี้มีมา ตั้งแต่ปี 2535 ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 25 ปี มีเม็ดเงินภาษีกว่า 1 หมื่นล้านบาท และยังมีรายที่ยังจับไม่ได้อีก จำนวนมาก”

นอกจากนี้กรมสรรพากรได้พัฒนาการให้บริการโดยเตรียมจัดทำ E-Stamp เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถตีพิมพ์แสตมป์อากรได้เอง และชำระค่าแสตมป์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งดีกว่าปัจจุบันต้องจัดซื้อแสตมป์อากรที่กรมสรรพากรเท่านั้น โดยส่วนนี้จะทำให้เกิดความสะดวกในการทำธุรกรรมมากขึ้น ขณะเดียวกัน จะมีการจัดทำคิวอาร์โค้ดของกรมสรรพากร เพื่อให้ ผู้ชำระภาษีสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด ชำระภาษีทั้งแบบรายเดือนและภาษีประจำปีได้