นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (บอร์ด Start Up) โดยที่ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ Start Up ด้วยการกำหนดนิยามชัดเจนสำหรับการได้รับช่วยเหลือและส่งเสริม โดยระบุต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีแนวคิดริเริ่มใหม่ได้จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญหา ( IP) เป็นบุคคลที่มีทักษะสูงและมีผลงานวิจัยและพัฒนา โดยมีความแตกต่างจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างชัดเจน หวังรับการช่วยเหลือจากภาครัฐทั้งผ่านหลายมาตรการ เพื่อลดปัญหาเด็กไทยสมองไหลถูกกองทุนต่างชาติมาร่วมทุนดึงไปอยู่ต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงต้องการเสนอให้หัวหน้า คสช.ออกประกาศมาตรา 44 เร่งรัดดำเนินการร่างกฎหมายเพื่อบังคับใช้ภายปีนี้
ขณะที่ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติได้กำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้ประกอบการ Start Up เพื่อจดทะเบียนนิติบุคคลระยะเวลา 5 ปี และได้รับการยกเว้นภาษีทั้งเงินปันผลและกำไรจากการร่วมลงทุนจากการขายหุ้น เมื่อกองทุน Angel Fund ซึ่งตั้งโดยบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เข้ามาร่วมลงทุน ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาต้องการใช้ทุนแต่ไม่มีทรัพย์สินค้ำประกันจากแบงก์ แต่กองทุน Angel Fund จะมาร่วมรับความเสี่ยงเข้ามาลงทุนร่วมกันคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ปรับใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นการสนับสนุนทั้งผู้ลงทุน และสตาร์ทอัพเจ้าของแนวคิด ซึ่งคาดว่าเสนอร่างกฎหมายได้ในเร็วๆนี้
รวมทั้งเสนอการจัดตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อกำหนดนโยบายและส่งแสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพราะปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายรองรับ รวมไปถึงการตั้ง “ศูนย์ทดสอบและพัฒนานวัตกรรม” เพื่อรับรองมาตรฐานให้กับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพิ่มความรู้ให้คำแนะนำในทุกด้าน ทั้งบริหารจัดการ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การจดทะเบียนตั้งบริษัท การปิดบริษัทผ่านระบบออนไลน์ เพื่อนำไปแข่งขันในระดับสากลและยังมีห้องทดลอง Sand Box เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทดลองโมเดล หรือแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ก่อนนำออกไปใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์
ทางด้าน นายชินาวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการด้านธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันภาคเอกชนรายใหญ่ตั้ง กองทุน Angel Fund จำนวนมากมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท โดยเตรียมเข้าร่วมลงทุนกับคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพของไทยหลายรายได้มีต่างชาติมาร่วมทุนจนมีชื่อเสียงโด่งดังในเวทีโลก โดยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น มันนีดิจิตอลในญี่ปุ่น คนคิดค้นโดยเด็กไทย จึงทำให้ขยายโอกาสคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ปัจจุบันผู้ประกอบการสตาร์ทอัพจดทะเบียนนิติบุคคล 1,500 ราย อยู่ระหว่างการศึกษานวัตกรรมมีไอเดียแนวคิดดี ๆ ประมาณ 8,500 ราย ได้มีกองทุนภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนแล้วในตลาด 500 ราย นอกจากนี้ยังส่งเสริมตั้งแต่ในระดับโรงเรียนมัธยม มหาวิยาลัย เพื่อตั้งชมรมสตาร์อัพในการส่งเสริมให้มีแนวคิดเป็นผู้ประกอบการใหม่ตั้งแต่อยู่ในสถาบันการศึกษา กระจายการตั้งชมรมไปทั่วประเทศ เมื่อภาครัฐได้ออกฎหมายคุ้มครองและส่งเสริมจะทำให้เด็กไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก