เผย!เด็กจบใหม่เลือกงานและชอบอาชีพอิสระ


นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 2 ปี 60 ว่า อัตราการว่างงานในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.2% มีจำนวนผู้ว่างงาน 470,000 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา ที่อัตราว่างงานอยู่ที่ 1.1% โดยพบว่า ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนทรงตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน สูงขึ้น 24.1% เพราะเป็นช่วงจบการศึกษาและแรงงานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะผู้ที่จบระดับอุดมศึกษา ซึ่งมีสัดส่วน 39% มักจะไม่ตัดสินใจทำงานทันที แต่จะรอดูหลังจากเรียนจบ 2-3 ไตรมาสก่อนสมัครงาน และเลือกงานมากขึ้น อีกส่วนเป็นเพราะคุณสมบัติของแรงงานและวุฒิการศึกษาไม่ตรงกับความต้องการของตลาด

ในปี 56 เด็กจบใหม่ระดับอุดมศึกษาว่างงาน 140,000 คน เพิ่มเป็น 180,000 คนในปี 59 และ 220,000 คนในปี 60 จากสาเหตุ 2 ด้านคือ นายจ้าง ตลาดแรงงานนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานในหลายส่วน ทำให้การจ้างงานบางประเภทลดลงหรือไม่จ้างงาน ส่งผลให้การจ้างงานโดยรวมลดลง อีกด้านเป็นเพราะผู้จบใหม่เลือกงาน และชอบลองทำงานอิสระมากกว่าเดิม ชอบใช้ชีวิตสไตล์ฮิปสเตอร์ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจดิจิทัลเข้ามาช่วยให้มีความสามารถทำงานอิสระ หรือธุรกิจใหม่ๆได้มากขึ้น ดังนั้น ต้องเร่งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลตามมา”

อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการแรงงาน ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตและบริการมากขึ้น อาจทำให้รูปแบบและความต้องการจ้างงานเปลี่ยนไป เช่น การจ้างงานแบบสัญญาจ้างที่มีระยะเวลา ความต้องการแรงงานที่ทำงานได้หลายหน้าที่ แรงงานที่มีทักษะทั้งด้านเทคนิคและด้านอารมณ์ ดังนั้น แรงงานต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมในทักษะด้านต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และต้องเร่งพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อเพิ่มศักยภาพแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และยกระดับผลิตภาพแรงงาน