AIS Serenade เชิญ Google ร่วมมอบประสบการณ์เหนือระดับสู่การทำธุรกิจยุค Next Gen


AIS Serenade ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับ กับที่สุดของเส้นทางสู่ความสำเร็จ ด้วยการเรียนรู้วิธีต่อยอดการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัลอย่างถึงกึ๋นกับกูรูชั้นนำจาก Google และ iTopPlus

ลูกค้า AIS Serenade ได้รับโอกาสสุดพิเศษ ให้เข้าร่วมไขกุญแจสู่ความสำเร็จกับ AIS Serenade กับกิจกรรมชื่อว่า “AIS Serenade The  Ultimate Inspiration : The Journey of Success” สร้างแรงบันดาลใจสู่ความคิดต่อยอดเส้นทางธุรกิจดิจิทัล  โดย นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ ได้จัดกิจกรรมเพื่อเฉพาะลูกค้า AIS Serenade ยุค Next  Generation ให้สัมผัสกับที่สุดของเส้นทางสู่ความสำเร็จ ด้วยการเรียนรู้วิธีต่อยอดธุรกิจบนโลกดิจิทัลอย่างถึงกึ๋นกับกูรูชั้นนำจาก Google และ iTopPlus

AIS Serenade

(ซ้าย: คุณเอพริล ศรีวิกรม์ Industry Head: Google Thailand, กลาง: คุณบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ AIS, ขวา: คุณกัมพล ธนาปัญญาวรคุณ CEO บริษัท iTopPlus)

ช่วงแรก Mr. Ernest Lee ตำแหน่ง Vice President Corporate Account Management กล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยเติบโตสูงมาก แต่การจะพาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของไทยไปต่ออย่างยั่งยืนในระยะยาว รัฐบาลจึงต้องใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนแบบไทยแลนด์ 4.0 ด้วยแนวคิดการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม, รูปแบบธุรกิจใหม่และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่ง AIS ก็เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์นี้จะมาช่วยเปลี่ยนคุณภาพชีวิตและธุรกิจของคนไทยทั้งประเทศ

สำหรับ AIS ก็เป็นส่วนหนึ่งในแนวคิด “Digital for Thais” เพื่อการเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยการปรับโครงสร้างพื้นฐานของระบบดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการที่ใช่ เช่น Wireless Infrastructure, Fixed broadband Infrastructure, Digital Service Infrastructure แต่เท่านี้คงยังไม่พอ เพราะทุกคนต่างคาดหวังการบริการที่ดีเพื่อพาร์ทเนอร์ เพื่อคนของเรา เพื่อรูปแบบธุรกิจและเพื่อลูกค้า ซึ่งสัญญาณ 3G และ 4G ของ AIS ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 98% ได้รางวัลการันตีจาก OOKLA ถึงความเร็วแรงที่สุดในประเทศไทย 3 ปีซ้อน เป็นเจ้าแรกของโลกที่พัฒนา NEXT G หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนมือถือความเร็วสูง 1Gbps ที่ความเร็วของอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญ เพราะทุกคนต่างใช้สมาร์ทโฟนดูโซเชียลต่างๆทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะการดูวีดีโอที่นับเป็นการสร้าง Engagement ที่ดีให้กับลูกค้า และเมื่อเร็วๆนี้ AIS ก็ได้เปิดตัวเครือข่าย NB-IoT Network ครั้งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้การเชื่อมต่อแคบลง ช่วยประหยัดพลังงาน ทั้งชีวิตประจำวันและธุรกิจมีความสะดวกสบายขึ้น ปัจจุบัน AIS ได้รับความไว้วางใจด้านการใช้งานขององค์กรชั้นนำกว่า 18,000 แห่ง และยังเชื่อมต่ออีก 1,200,000 ธุรกิจผ่าน Mobile, Network, Cloud และ IoT ทั้งยังพัฒนาระบบมากมายสำหรับ SME Bussiness Solution อย่างแอพลิเคชั่น AIS mForm ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ SMEs ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ Workflow ในบริษัทง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชี การสั่งสินค้า การทำสต็อกและการรายงานผลต่างๆ โดยไม่ต้องใช้เงินมากมายในการติดตั้งระบบ

คุณเอพริล ศรีวิกรม์ Industry Head: Google Thailand เล่าว่าโลกดิจิทัลในอนาคตจะมาพร้อมโอกาสมากมาย มีการคาดการณ์ว่าปี 2025 มูลค่าของธุรกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด จะสูงถึง 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และประเทศไทยจะกินส่วนแบ่งถึง 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยที่เติบโตสูงขึ้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือการค้าขายบนออนไลน์อย่างอีคอมเมิร์ช ส่วนที่สองคือธุรกิจท่องเที่ยว และสุดท้ายคือธุรกิจสื่อ การโฆษณาและเกมส์ โดยเหล่านี้จะเติบโตขึ้นอีก 6.5 เท่าในปี 2025 ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อมอยู่มาก เนื่องจากมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสูงถึง 59 ล้านคน โดยผู้ใช้ 58% เป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งอินเตอร์เน็ตยังครอบคลุมพื้นที่กว่า 98% ของประเทศ มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนกว่า 40 ล้านคน อย่างการใช้งานใน Youtube ของคนไทยจะมีค่าเฉลี่ยชั่วโมงการดูต่อคนสูงกว่าสหรัฐฯถึง 20 เท่า และไทยยังติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกที่มีผู้ใช้ Youtube สูงที่สุด มีผู้ใช้ Youtube ที่ได้รับปุ่มองคำจากการกด Subscribe 1 ล้านคน มากถึง 68 ยูสเซอร์

จากผลสำรวจพบว่า เอสเอ็มอีไทยที่ใช้งานกับ Youtube มีการเติบโตของรายได้มากกว่าเอสเอ็มอีที่ไม่ได้ใช้งานสูงถึง 80% โดยมี 3 แนวโน้มความต้องการใน Youtube ได้แก่ ความรวดเร็ว,  ความเข้มข้นของเนื้อหาและความคาดหวังในสาระที่ดีเยี่ยม นับจากนี้ไปเทคโนโลยีในอนาคตจะรวมตัวกันอยู่ในสมาร์ทโฟน ซึ่งจะผสานกับการทำงานของ AI ที่มีการเก็บข้อมูล ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อช่วยผู้บริโภคในการตัดสินใจ คุณเอพริลกล่าวทิ้งท้ายว่า การขับเคลื่อนธุรกิจบนโลกดิจิทัลขณะนี้ ผู้ประกอบการควรเร่งปรับเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นผู้ส่งมอบข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อลูกค้า ซึ่งข้อมูลที่ดีต้องส่งไปในเวลาที่พวกเขาพร้อมรับฟังด้วย

ด้านคุณกัมพล ธนาปัญญาวรคุณ CEO บริษัท iTopPlus และเป็น Premier Partner ของ Google กล่าวว่า ยุคนี้แทบทุกคนต่างทำงานได้บนสมาร์ทโฟน ซึ่งก็มีโฆษณาแฝงเข้ามาอย่างปฏิเสธไม่ได้ จากข้อมูลพบว่ามีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทำให้มูลค่าการโฆษณาบนสื่อออนไลน์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นเพระการทำการตลาดออนไลน์เห็นผลได้จริง ตรงกลุ่มเป้าหมาย, วัดค่าได้ แก้ไขได้และใครๆก็ทำได้

ระบบการซื้อโฆษณาออนไลน์เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีความยุติธรรม เพราะเก็บเงินแบบ Pay Per Click (PPC) ทำให้การจ่ายค่าการตลาดเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล มีข้อมูลสถิติที่ชัดเจน สามารถนำกลับมาวิเคราะห์ พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างผลตอบแทนและตั้งงบแบบวันต่อวันได้ (Daily Budget) ช่วยให้ทุกคนมีโอกาสเติบโตในธุรกิจ โดยไม่ต้องไปลงทุนซื้อโฆษณามหาศาลอย่างในอดีต ด้านการทำโฆษณากับ Google มี 2 รูปแบบ

  1. ทำโฆษณาบนหน้าแรก (SEO/Adwords) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างยอดขาย ซึ่งต้องกำหนดคำ (Key Words)ให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเสิร์ชหาจาก Google ส่วนใครที่อยากให้เว็บติดหน้าแรก ก็ต้องทำ SEO ด้วยการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพไว้จำนวนมากๆ ไม่ควรก็อบปี้เนื้อหาจากเว็บคนอื่นมา และต้องสอดคล้องกับคำที่กลุ่มลูกค้าจะใช้ค้นหา คุณกัมพลยกตัวอย่างจากการวิเคราะห์ธุรกิจของตนเองว่า ลูกค้าที่มาจาก SEO จะมีอัตราการซื้อน้อยกว่าการทำโฆษณาโดยตรง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กำลังหาข้อมูล แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ คุณกัมพลแนะนำว่าควรซื้อ Google Adwords ก่อนแล้วเมื่อมีเงินเหลือค่อยทำ SEO เพราะ SEO ทำยาก หากทำไม่ต่อเนื่องก็จะติดหน้าแรกได้ไม่นาน สำหรับโฆษณาที่ Google ไม่รับทำ Adwords ก็ได้แก่ สิ่งผิดกฎหมาย, อาวุธ, สินค้าไม่มี อย., เว็บไซท์ที่โฆษณาเกินจริง, สินค้าที่มีการรองรับการเห็นผล และ MLM ที่มีแบบฟอร์มบอกรับสมาชิก
  2. ทำโฆษณาบนเว็บไซท์ที่เป็นพันธมิตรของ Google (Google Display Network หรือ GDN) เนื่องจากการซื้อโฆษณากับสื่อออนไลน์โดยตรงมีราคาสูง Google จึงได้สร้างพันธมิตรกับผู้ทำเว็บไซท์กว่า 90% ในประเทศไทย ทำให้ทุกคนสามารถลงโฆษณารูปแบบเว็บแบนเนอร์ ในงบประมาณที่กำหนดได้เอง ซึ่ง GDN ไม่ได้เป็นการลงโฆษณาเพื่อสร้างยอดขาย แต่เป็นเพียงการสร้าง Awareness เท่านั้น โดยแบนเนอร์มีให้เลือกกว่า 10 ขนาด แต่ถ้าจะให้เห็นผลจริง ต้องเลือกขนาดใหญ่เท่านั้น ไม่แนะนำให้ระบุว่าจะลงกับเว็บไซท์ดัง เนื่องจากมีราคาต่อคลิกสูงหลายสิบบาท สามารถระบุหมวดหมู่และความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ นอกจากนั้น GDN ยังสามารถทำ Re-Marketing ซึ่งแบนเนอร์จะคอยตามติดยูสเซอร์ที่เคยเข้ามาคลิกดูจนกว่ายูสเซอร์จะไปคลิกดูแบนเนอร์อื่น สุดท้ายคุณกัมพลได้แนะนำเทคนิคการวางแผนลงโฆษณากับ Google ในสินค้ากลุ่มไอที, แฟชั่นและความงาม, การศึกษา, ท่องเที่ยว, ก่อสร้างและการตกแต่ง เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ

นอกจากนั้นภายในงาน AIS Serenade ยังเตรียมบริการให้คำปรึกษาและแนะนำโอกาสใหม่ๆ (Exclusive Consultant Clinic) สำหรับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนบนโลกยุคดิจิทัล โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้บริการแบบ One on One อีกด้วย

สำหรับงานครั้งต่อไป ติดตามสิทธิพิเศษของ AIS Serenade ได้ในกิจกรรม “AIS Serenade Business Inspiration Trip  ไปสัมผัสวิธีการทำงานของ Google ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 8 พ.ย. 2560 ลูกค้า เซเรเนด ที่สนใจสามารถสมัครร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. – 10 ต.ค. 2560 ที่ AIS Privilege LINE และ AIS Facebook Fanpage

และติดตามดูย้อนหลังงาน Serenade The Ultimate Inspiration “ The Journey of Success ” ได้ที่ AIS YouTube Channel  https://www.youtube.com/watch?v=FlIYT8fKhCs&t=436s