กรมสรรพากร จับมือ ห้างดัง เปิดจุด Vat Refund For Tourist (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) นอกสนามบิน เอาใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อำนวยความสะดวกให้กับนักช้อป เดือนต.ค.นี้ คาดจะเกิดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยว่า กรมสรรพากร เตรียมอนุญาตให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าเข้าร่วมโครงการร้าน Vat Refund For Tourist ทดลองนำร่อง (Sand Box) ช่วง 6 เดือน (ต.ค.61- มี.ค.62) เพื่อเปิดจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายในเมือง
จากเดิมเปิดให้นักท่องเที่ยวขอคืนแวต (Vat Rafundtax) ได้ที่สนามบินก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องต่อแถวนานในการขอคืนภาษีในสนามบิน ที่ผ่านมามียอดขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 2 ล้านรายต่อปี เป็นเงินประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี
หากเปิดให้ขอคืนในหัวเมืองแหล่งธุรกิจ นักท่องเที่ยวจะได้ซื้อสินค้าในประเทศเพิ่มเติม เริ่มต้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดนช่วงทดลองคาดว่าจะเกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ หลังจากเปิดให้คืนแวตในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเชื่อว่าไม่มีการทุจริตจากการคืนแวตแอบนำสินค้าไปขายต่อ ซึ่งขณะนี้มีห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ ยื่นขออนุญาตเข้าร่วมโครงการ 3 ราย
เพื่อให้ห้างสรรพสินค้าแต่ละแห่งเปิดจุดขอคืนภาษีได้ 3 จุด การขอคืนภาษีเป็นเงินสด หวังให้นักท่องเที่ยวมีเงินสดในมือเพิ่มใช้จ่ายในเมืองได้ทันที โดยจะไม่ขอเปิดดูรายการสินค้า เพื่อแสดงสปิริตความซื่อสัตย์ ความมีวินัย เพียงแสดงสลิปใบเสร็จชำระราคาสินค้าการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ยกเว้นสินค้าราคาแพง 10 ประเภทที่กำหนด เจ้าหน้าที่ต้องขอเปิดดู เช่น นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม ราคาหมื่นบาทต่อชิ้น
ที่ผ่านมาได้เปิดให้ภาคเอกชนสมัครเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวในเมือง เพื่อให้เป็นทางเลือกกับนักท่องเที่ยวซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการจดทะเบียนขายสินค้า ร้าน Vat Refund For Tourist โดยสามารถขอคืนภาษีได้จากตัวแทนดังกล่าวได้ทันที
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มยอดขายให้กับเอกชนเข้าร่วมโครงการ หนุนแนวทางส่งเสริมให้ไทยเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งได้กำหนดเอกชนยื่นขอเป็นตัวแทน เป็นเอกชนนิติบุคคล ทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาทขึ้นไป จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีพื้นที่ให้บริการจุดคืนภาษี อุปกรณ์เครื่องมือเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากร สำหรับผู้เดินทางออกนอกประเทศ
เบื้องต้นคาดว่าจุดที่จะนำร่องเปิดให้บริการจะเป็นศูนย์การค้าพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์, เกษรพลาซ่า, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี, และดิเอ็มควอเทียร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวเป็นหลัก สอดรับแนวทางของผู้ประกอบการค้าปลีกที่ต้องการผลักดันเมืองไทยให้เป็น “ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น”
ข่าวอื่นๆ คลิก
