กกพ.เตรียม หมื่นล้าน พยุงค่า FT ลดค่าครองชีพประชาชน ปีหน้าค่าไฟอาจปรับขึ้นต้นเหตุมาจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติปรับราคาสูงขึ้น
นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เผยว่า แนวโน้มต้นทุนค่าไฟฟ้าในงวดถัดไปของปี 2562 คือ งวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2562 มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า
ด้าน กกพ.จะพยายามบริหารจัดการต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด โดยประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ หรือ กฟผ. เจรจากับผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 1,280 เมกะวัตต์ ให้เร่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เร็วขึ้น
จากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงกลางปี 2562 เพื่อเฉลี่ยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าให้ต่ำลง เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำมีต้นทุนต่ำ รวมถึงพิจารณาว่าจะบริหารจัดการทางการเงินอย่างไร เพื่อนำมาเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าในอนาคต
ต้นทุนค่าไฟฟ้าในปี 2562 เป็นช่วงขาขึ้น ประชาชนจะต้องเตรียมพร้อมรับมือโดยการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ กกพ. ตัดสินใจนำเงินที่มีอยู่เข้ามาบริหารจัดการค่าไฟฟ้าในงวดแรกของปี 2562 กว่า 1 หมื่นล้านบาท เพราะต้องการชะลอผลกระทบค่าครองชีพให้กับประชาชน
กกพ. มีมติให้เรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่า Ft งวดเดือนมกราคม – เมษายน 2562 จำนวน ลบ 11.60 สตางค์ต่อหน่วย ปรับเพิ่มขึ้น 4.30 สตางค์ต่อหน่วย จากที่เรียกเก็บงวดปัจจุบันคือ เดือนกันยายน – ธันวาคม 2561 ในอัตรา ลบ 15.90 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยเมื่อรวมค่าไฟฐานจะอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ตามต้นทุนค่าเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ผลิตไฟฟ้า หาก กกพ. ไม่บริหารจัดการ จะส่งผลให้ต้นทุนค่า Ft งวดใหม่นี้ ปรับขึ้น 24 สตางค์ต่อหน่วย โดยอยู่ที่ 8.10 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จึงนำเงินสะสมจากการเรียกเก็บค่า Ft จำนวน 3,298 ล้านบาทรวมกับเงินบริหาร Ft ซึ่งมีที่มาจากส่วนลดและค่าปรับจากผู้ประกอบการ 5,547 ล้านบาท และเรียกเม็ดเงินลงทุนจากการไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผนอีก 1,522 ล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและลดความผันผวน ค่า Ft รวมเป็นเงิน 10,367 ล้านบาท
