เอกชนเล็ง “โซลาร์รูฟ” ผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้าน สุดล้ำ! ซื้อ-ขายผ่านบล็อกเชน


SC ASSET และ BCPG เปิดตัว ‘Sun Share Project’ โครงการความร่วมมือนำระบบ โซลาร์ รูฟ มาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในบ้านและซื้อ-ขายไฟฟ้าระหว่างกันผ่านบล็อกเชนรายแรกในโครงการ เนเบอร์ฮูด บางกะดี

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า Sun Share Project เป็นโครงการความร่วมมือนำระบบโซลาร์รูฟ ติดตั้งที่บ้านลูกค้าและสปอร์ตคอมเพล็กซ์ (Sport complex) ในโครงการเนเบอร์ฮูด บางกะดี (Neighborhood Bangkadi) ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งพัฒนาโดย BCPG มาใช้ในการบริหารพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยลูกค้าสามารถซื้อ-ขายพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบบล็อกเชนแบบอัตโนมัติ ประการสำคัญ คือ ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์โดยตรง นอกจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าระยะยาว 2 เรื่อง ได้แก่

1.สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน จากการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจากโซลาร์รูฟโดยตรง อีกด้านคือ สามารถซื้อพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบ Blockchain ได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งราคาต่อหน่วยไฟฟ้านี้จะถูกกว่าหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้าปกติ

2.กรณีลูกค้าไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน หรือไม่อยู่บ้าน จะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ผ่านระบบบล็อกเชนโดยอัตโนมัติ ให้กับบ้านและสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่มีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน

นอกจากนี้ ในอนาคต SC ASSET และ BCPG จะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อเชื่อมต่อกับบ้านรู้ใจ แอปพลิเคชั่น (BaanRueJai Application) อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สำหรับโครงการ Neighbourhood Bangkadi) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ เป็นทำเลที่มีศักยภาพต่อการเติบโตของชุมชนเมือง ซึ่งจะพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมทั้งหมด 7 โครงการ โดยที่มีสมาชิกครอบครัว SC Family ประมาณ 1,800 ครัวเรือน

ทั้งนี้ การนำร่องโครงการ Sun Share Project จะเริ่มในบางส่วนของ 2 โครงการแรกที่เปิดขาย ได้แก่ โครงการ เวนิว ติวานนท์-รังสิต กับโครงการเวิร์ฟ ติวานนท์-รังสิต โดยลูกค้าจะใช้งานได้ประมาณไตรมาส 4/2562

ด้านนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกนำนวัตกรรมระดับโลกมาใช้ในธุรกิจพลังงาน บีซีพีจีมีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสร้าง Quality Living ให้แก่ลูกค้าของ SC ASSET โดยการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในครัวเรือน และสามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินความต้องการไปทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม บริษัทฯ จะเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าให้ทั้งหมด โดยจะเริ่มต้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ และมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดจากโครงการต่างๆ ในอนาคต

โครงการ Sun Share Project ยังสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาระบบบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานของชุมชน (Big Data and Data Management) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการพลังงานของพื้นที่สาธารณะ ทั้งส่วนกลางและสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ฯลฯ โดยช่วยบริหารจัดการช่วงเวลาและลำดับการใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ของส่วนรวม เพื่อให้การใช้พลังงานของชุมชนมีความคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด

“โครงการดังกล่าว เป็นการทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ขึ้น เนื่องจากไฟฟ้าทุกหน่วยที่ผลิตได้ จะนำไปใช้หรือแลกเปลี่ยนซื้อขายได้หมด ไม่มีไฟฟ้าส่วนเกินหรือเหลือใช้ ไม่กลายเป็นของเสียหรือสูญเปล่า และยังเป็นการสร้างเครือข่ายผู้ใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น ร่วมสร้าง low cost, low carbon society เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” นายบัณฑิต กล่าว

ทั้งนี้ บีซีพีจี บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นผู้ประกอบการและลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมและพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 600เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มการทำการตลาดกับผู้บริโภครายย่อยโดยตรงมากขึ้น เน้นการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงให้บริการการจัดการด้านพลังงานหรือ energy as a service และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลกมาใช้ ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถผลิตพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตัวเองและประหยัดค่าใช้จ่าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ณัชชารีย์ บูรณพัฒน์ปกรณ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทร. 08-1875-3222 อีเมล์ : [email protected]