หวัง ‘แบงก์ชาติ’ ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาช่วยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก แม้ว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปีแล้วก็ตาม เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในระดับฐานรากไม่ดีนัก ประกอบกับการส่งออกที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีทิศทางที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง จากสงครามการค้าและค่าเงินบาทที่แข็งค่า

ทั้งนี้ สถานการณ์ส่งออกก็ยังไม่ดีนัก โดยการส่งออกในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.) ติดลบ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าเร็วมาก ภาคเอกชนจึงต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาดูแลปัญหาค่าเงินบาท ที่ขณะนี้แข็งค่าต่อเนื่องจนอยู่ในระดับต่ำกว่า 31 บาท/ดอลลาร์มานานเกือบ 1 ปีแล้ว เนื่องจากมีเงินไหลเข้าไทยมากพอสมควรจากการที่สหรัฐมีนโบบายปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก และรัฐบาลไทยมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก และในส่วนภาคเอกชน ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ต้องการเห็นเงินบาทมีเสถียรภาพ โดยต้องการให้เงินบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงประมาณ 32 บาท/ดอลลาร์เปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม จากการส่งออกไทยที่ติดลบต่อเนื่องการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันที่ 10 ก.ค.นี้ กกร.จะมีการพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจใหม่ทั้งการส่งออก ประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) โดยยอมรับว่า มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงจากประมาณการณ์เดิม

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกาและจีน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าจึงมีแนวโน้มว่าการส่งออกไทยปี 2562 มีโอกาสการเติบโตจะเป็น 0% หรือติดลบได้หากการประชุมสุดยอด G20 ที่ญี่ปุ่นวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้สหรัฐฯและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น