จับตาสถานการณ์ SME ดี-ไม่ดี ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมือง


ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมาตั้งแต่ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร

ในด้านเศรษฐกิจ ปฏิเสธไม่ได้เสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งจะช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องการลงทุนให้กับนักธุรกิจ แต่หากรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพมากพอก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเช่นกัน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองประเด็นในเรื่องนี้ว่า เสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่นักลงทุน และตลาดการเงินจะติดตามเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 หากรัฐบาลมีเสถียรภาพ เชื่อว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยระยะสั้น สนับสนุนทิศทางให้เศรษฐกิจไทยในช่วงปีหลังให้มีโอกาสขยายตัว

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพมากพอ ก็อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และภาคธุรกิจ นำมาสู่ผลเชิงลบต่อทิศทางเศรษฐกิจในปี 2562

จากที่กล่าวมา การเมืองถือว่ามีส่วนสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจ เพราะหากรัฐบาลมีเสถียรภาพจะเป็นผลดีต่อธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากหลายโครงการที่อยู่ในช่วงระหว่างการก่อสร้างจะได้รับการผลักดันให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการแข่งขันของประเทศ

แต่อีกด้านหนึ่ง สถานการณ์ของ SME ไทยในปี 2562 ก็มีความเสี่ยงจากปัจจัยสภาพอากาศ คือ ภัยแล้ง ที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต และรายได้ของเกษตรกร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและนโยบาย เช่น ค่าจ้างแรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงการทำระบบบัญชีให้เหลือแค่เล่มเดียว