แม็คโคร ก้าวสู่ปีที่ 30 ย้ำเป็นที่หนึ่งธุรกิจค้าส่ง เผยหลัก 6 ประการ เข้าสู่ ‘แม็คโคร 4.0’


แม็คโคร ก้าวสู่ปีที่ 30 อย่างผงาด โชว์ตัวเลขผลประกอบการปี 2561 เติบโต 3.3% เดินหน้าสู่ แม็คโคร 4.0 คู่คิด…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า เน้นยกระดับคุณภาพโชห่วย สู่ความเป็นเลิศ ผสานธุรกิจแบบไร้รอยต่อ เชื่อมออฟไลน์-ออนไลน์ รับแนวโน้มผู้บริโภคยุคดิจิทัล พร้อมประกาศเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจ 6 ประการ (Six Goals) แสดงเจตนารมณ์ชัดเจน ภายใต้แนวคิด ‘เคียงข้าง สร้างสรรค์ มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน’

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร เผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของกลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร ศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคคุณภาพแบบขายส่ง ในระบบสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดินหน้ายกระดับสู่ ‘แม็คโคร 4.0 คู่คิด…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ภายใต้แนวคิด ‘เคียงข้าง สร้างสรรค์ มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน’ มุ่งเป็นที่หนึ่ง เรื่องการจัดหาสินค้า เพื่อผู้ประกอบการแบบครบวงจร โดยคัดสรรสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า ตอกย้ำเป้าหมายที่จะเป็นคู่คิดทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการอย่างแท้จริง
ตลอด 30 ปี แม็คโครได้ยึดหลักในการดำเนินธุรกิจที่จะต้องเติบโตควบคู่กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ โดยเน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ผ่านเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจ 6 ประการ (Six Goals) ได้แก่

1. การเป็นแหล่งอ้างอิงด้านอาหารปลอดภัย ใส่ใจเรื่องคุณภาพอาหารและความปลอดภัยโดยมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหาร และผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และพร้อมจะจับจ่ายเพื่อบริโภคอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ตามที่แต่ละประเทศกำหนดไว้
2. ส่งเสริมการคัดสรรผลิตภัณฑ์อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ จึงมุ่งทำงานกับผู้ผลิตหรือคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

3. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งดำเนินการให้ทุกระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

4. เป็นที่รักในท้องถิ่น แม็คโครปรารถนาจะเป็นที่รักและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้เกิดกับชุมชนอย่างน้อยในแต่ละพื้นที่ที่แม็คโครตั้งสาขาอยู่ อาทิ การจ้างงานในท้องถิ่น การให้ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจค้าปลีกแก่ผู้ประกอบการร้านโชห่วย รวมถึงเด็กและเยาวชนที่เป็นโชห่วยรุ่นเยาว์ ให้นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงร้านค้าปลีกในท้องถิ่นให้อยู่รอดอย่างยั่งยืน

5. สร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้า โดยมุ่งศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นช่องทางใหม่ในการทำธุรกิจ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทำธุรกิจง่ายขึ้น สะดวกขึ้น มีผลกำไรมากขึ้น และมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกการแข่งขันยุคใหม่ ส่งผลให้ลูกค้าผู้ประกอบการพึงพอใจและเป็นลูกค้าสมาชิกของแม็คโครในระยะยาว

6. เป็นองค์กรที่คนทุกรุ่นอยากเข้ามาร่วมงาน เพื่อให้แม็คโครเป็นองค์กรที่น่าทำงานของพนักงานในทุกช่วงวัย จึงมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ และสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากแนวทางธุรกิจดังกล่าว ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของแม็คโครให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และมีส่วนช่วยให้คู่ค้า ลูกค้า และชุมชนท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาปรับใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) มาใช้วิเคราะห์ลูกค้าในระบบที่มีกว่า 3 ล้านราย ตลอดจนนำเสนอโปรโมชั่นข้อมูลความรู้และสิทธิประโยชน์ผ่าน เว็บไซต์ Makroclick.com โชห่วยไทย.com แม็คโครแอพพลิเคชั่น และแม็คโคร Line Official อีกด้วย

ปัจจุบันแม็คโครมีสาขาทั้งหมด 129 สาขา แบ่งเป็น ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร รูปแบบคลาสสิค 79 สาขา แม็คโครฟูดเซอร์วิส 25 สาขา อีโค พลัส 13 สาขา แม็คโคร ฟูดช้อป 5 สาขา และสยามโฟรเซ่น 7 สาขา และขยายฐานธุรกิจสู่ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียอีก 8 ประเทศ นางสุชาดา กล่าวเสริม

สำหรับผลประกอบการของแม็คโครในปี 2561 เติบโตขึ้นจากปี 2560 กว่า 3.3% จากปัจจัยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2561 รวมถึงภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่ภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และในปีนี้เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี แม็คโครเดินหน้าขยายสาขาในรูปแบบของฟูดเซอร์วิสต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดแม็คโคร ดิจิทัล สโตร์ ที่ลาดกระบังเป็นสาขาแรก และมีแผนจัดกิจกรรม บิสสิเนสแมชชิ่ง สำหรับ SMEs ครั้งแรก ตลอดจนเดินหน้าการเป็นผู้นำลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากโฟมผ่านโครงการ Say Hi to Bio Say No to Foam และสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม เตรียมจัดกิจกรรมแม็คโคร รัน ฟอร์ ฟันด์ โดยรายได้มอบให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโครงการโชห่วยรุ่นเยาว์ เพื่ออาหารกลางวันที่ยั่งยืน เป็นต้น

แม็คโคร มีเป้าหมายที่จะเป็น ‘คู่คิดธุรกิจ’ ของลูกค้า ผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ตลอดจนนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการมอบคุณค่าให้แก่สังคม ซึ่งนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคู่ค้า ลูกค้า คนในชุมชน และพนักงานอย่างยั่งยืน สมกับเจตนารมณ์ ‘คู่คิด…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’