ที่นี่อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง ทะเลสาบแห่งเพชรบูรณ์


ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ นักท่องเที่ยวหลายท่านคงจะนึกถึง แต่จุดชมวิวบนภูเขาสูง เช่น ทะเลหมอกบนเขาค้อภูทับเบิก จุดชมวิวเขาตะเคียนโต๊ะ หรือวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขา วารสาร ข่าวชลประทานฉบับนี้ จะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของ “จังหวัดเพชรบูรณ์” ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ หรือที่ชาวเพชรบูรณ์รู้จักกันดีในชื่อ “ทะเลสาบเพชรบูรณ์” ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านป่าแดง ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ แท้จริงคือ “อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง” นั้นเอง

 

 

สำหรับการเดินทางมาอ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดงนั้นไม่ยาก หากมาโดยรถยนต์ส่วนตัว ให้ตรงจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 จะพบป้ายบอกทางไป อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดงตลอดทาง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง กรมชลประทานสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางด้านการชลประทาน สามารถเก็บกักปริมาณน้ำได้ 20.7 ล้านลูกบาศก์เมตร มีคลองส่งน้ำ 6 สาย ความยาว 35 กิโลเมตร สามารถแก้ปัญหาภาวะการณ์ขาดแคลนน้ำสำหรับการทำการเกษตร ในเขตตำบลป่าเลา ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีพื้นที่รับประโยชน์ ถึง 16,950 ไร่

 

 

ในด้านการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง หรือที่เรียก “ทะเลสาบเพชรบูรณ์” เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูหนาวถึงช่วงฤดูแล้งเพราะปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ จะไม่สูงมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณโดยรอบข้างที่ถูกโอบล้อม รอบไปด้วยขุนเขาเขียวขจีอย่างชัดเจน และเมื่อมองจากสันเขื่อน จุดกึ่งกลางจะเป็นผืนน้ำที่สงบนิ่ง บางช่วงเวลาผืนน้ำจะสะท้อนภาพภูเขาสีเขียวชวนให้ดูลึกลับ และในบางมุมจะเห็นเป็นทะเลสาบรูปอักษรภาษาอังกฤษตัว S ซึ่งถูกธรรมชาติปรับแต่งอย่างไม่ตั้งใจจนสวยงาม น่าเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำอย่างยิ่ง

 

 

ถ้ามาถึงที่นี่ในช่วงเช้าขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นลองทิ้งกายลงกับพื้น นั่งชันเข่า ศีรษะ แนบบนสองท่อนแขนในจังหวะที่มีลมพัดผ่านเบาๆ อากาศที่นี่เย็นสบายจะมีหนาวจัด ในฤดูหนาวให้ต้องอวดสีสันของเสื้อกันหนาวกัน หลังจากนั้นก็ปิดตาสดับเสียงพลิ้วไหวของต้นไม้ใบหญ้า เพียงเท่านี้ก็อาจจะได้ยินเสียงนกกระจิบนกกระจอกที่เริ่มออกหากิน แต่สำหรับคนที่มาในช่วงเย็นแนะนำให้พกเสื่อมาปูด้วยทิ้งเครื่องมือสื่อสารไว้ข้างตัว ระหว่างนี้ก็ชวนเพื่อนคุยหรือปล่อยเวลาให้เคลื่อนคล้อยไปอย่างช้าๆ เพื่อรอดูดวงอาทิตย์ที่อยู่ห่างไกลกับโลกนับหลายล้านกิโลเมตร แต่กลับกำลังลับขอบฟ้าให้เห็น ต่อหน้านับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์การท่องเที่ยวที่น่าลองมาเปลี่ยนบรรยากาศและมีดีไม่แพ้การชมทะเลหมอกเลยทีเดียว