การค้าไทยกระทบ!! ส่องแนวทางกระทรวงพาณิชย์


      เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง….

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ทั่วโลกต่างจับตามองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2016  ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร วันนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วว่า สหรัฐฯ จะมีประธานาธิบดีคนใหม่เป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ขอแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย

นางอภิรดีฯ ได้กล่าวต่อไปว่า นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่เน้นการปฏิรูปและไม่สนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้า ซึ่งจะทำให้ทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนค่อนข้างชัดเจน โดยเน้นให้ความสำคัญกับการเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ (โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุน ผ่านมาตรการภาษี) เน้นนโยบายปกป้องการค้าของสหรัฐฯ มีความชัดเจนที่จะปฏิเสธผู้ลี้ภัยต่างชาติและแรงงานต่างชาติ และลดความสำคัญลงสำหรับประเด็นสิ่งแวดล้อม สำหรับนโยบายต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะทบทวนความสัมพันธ์และการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพันธมิตรใหม่ อย่างไร  ก็ตาม ยังมีประเด็นความเป็นไปได้ของนโยบายเหล่านี้ว่าจะสามารถปฏิบัติได้จริงหรือไม่ ซึ่งอาจนำไปสู่ความ ไม่เชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและเกิดความผันผวนในระยะสั้นได้

ผลกระทบระยะสั้น  คาดว่าจะมีผลกระทบในตลาดเงินตลาดทุนอย่างชัดเจน แต่ภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) คงไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย ตลาดเงินตลาดทุนคงได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน เช่นเดียวกันกับผลกระทบจากกรณี Brexit ที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกผันผวน ค่าเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่า ตลาดหุ้นตกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกโดยรวมน่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้นการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ตามการคาดการณ์

สำหรับในปีต่อไปนั้น ไทยคงต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่อาจจะเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงและไม่แน่นอนที่อาจมีขึ้นในเศรษฐกิจโลก ที่อาจส่งผลด้านต่าง ๆ เช่น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีขึ้นหรือไม่  ราคาน้ำมันจะขึ้นตามที่คาดไว้หรืออาจจะเกิดการผันผวนอย่างมาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับดอกเบี้ยขึ้นตามที่คาดหรือไม่ ฯลฯ ซึ่งความผันผวนเหล่านี้ จะส่งผลต่อการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีความผันผวน และราคาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ผลกระทบจากนโยบายลดภาษียังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของ IMF (ร้อยละ 2.2 และร้อยละ 3.4 ตามลำดับ) โดยภาพรวมแล้วจะทำให้การส่งออกของไทยในปี 2560 มีความเสี่ยงและท้าทายมากขึ้น เพื่อที่จะกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ   5 ปี

ผลกระทบระยะยาว ด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มคัดค้าน TPP อย่างชัดเจน แต่คาดว่าจะมีการเจรจาการค้าฉบับใหม่ที่มีลักษณะปกป้องผลประโยชน์พลเรือนอเมริกันมากขึ้น ซึ่งอาจนำมาสู่การขยายแนวความคิดด้านชาตินิยมและไม่ให้ความสำคัญกับการค้าเสรีไปสู่ประเทศต่างๆ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวปริมาณการค้าโลก ซึ่งในประเด็นนี้ไทยก็พร้อมจะพิจารณาสานความสัมพันธ์ทางการค้าผ่านเวทีอื่นๆเพื่อเป็นทางเลือก