หวย ผลตอบแทนคุ้มค่าจริงหรือ?


หวย คือสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานกว่าเกือบ  2 ศตวรรษ โดยในปี 2375 สมัยรัชกาลที่ 3 สภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ประชาชนไม่นิยมใช้จ่ายนำเงินไปฝังดินเก็บไว้ รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงหวยขึ้นมาหวยเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีน เรียกว่า “ฮวยหวย” หรือ ชุมนุมดอกไม้ เป็นที่มาของการเรียกสลากกินแบ่งรัฐบาล ในปัจจุบันว่า หวยรัฐบาล เนื่องจากการออกหวยในสมัยแรกนั้นออกเป็นรูปดอกไม้ ต่อมาหวยก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการออกรางวัลเป็นไปตามยุคสมัย เช่น ออกตามชื่อคนจีน ตัวอักษรพยัญชนะไทย (หรือหวย ก ข) ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงต้องการที่จะยกเลิกการเล่นพนันแต่เนื่องจากอากรหวยเป็นรายได้สำคัญ จึงยกเลิกบ่อนการพนันอย่างอื่นก่อนและมายกเลิกหวยได้ในสมัยรัชกาลที่ 6  ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เริ่มมีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อหารายได้บำรุงการกุศล แต่ไม่ได้มีการออกรางวัลเป็นประจำ จนภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 รัฐบาลจึงเริ่มให้มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการประจำโครงสร้างเงินรางวัลจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ได้ถูกปรับปรุงล่าสุดเมื่องวดวันที่ 1 กันยายน 2558 โดยได้มีการตัดรางวัลเลขท้าย 3 ตัวออกไปจำนวน 2 รางวัล และเพิ่มรางวัลเลขหน้า 3 ตัวขึ้นมา 2 รางวัล โดยโครงสร้างเงินรางวัลปัจจุบันมีรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้

รางวัล มูลค่า(บาท) ครั้งที่ออก
รางวัลที่ 1 3,000,000 1
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 50,000 2
รางวัลที่ 2 100,000 5
รางวัลที่ 3 40,000 10
รางวัลที่ 4 20,000 50
ราวัลที่ 5 10,000 100
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2,000 2
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2,000 2
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1,000 1

 

เมื่อพิจารณาการเล่นหวยรัฐบาลในมุมมองการลงทุน เราสามารถนำผลกำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นจากหวยรัฐบาล มาหาผลตอบแทนที่คาดหวัง(Expected Return) โดยการนำอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในแต่ละรางวัลมาหาค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามอัตราความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้นของรางวัล

*ผลตอบแทนที่คาดหวัง สามารถนำมาใช้ประมาณการถึงผลตอบแทนจะได้รับจากการลงทุนในอนาคตซึ่งวิธีการคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในหวยรัฐบาลมีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

รางวัล เงินรางวัล อัตราผลตอบแทน
(
ร้อยละ)
ความน่าจะเป็น
(
ต่อ)
อัตราผลตอบแทนถ่วงน้ำหนักในแต่ละรางวัล(ร้อยละ)
รางวัลที่ 1 3,000,000 7,499,900 1/1,000,000 7.49990
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 50,000 249,900 5/1,000,000 0.24980
รางวัลที่ 2 100,000 249,900 5/1,000,000 1.24950
รางวัลที่ 3 40,000 99,900 10/1,000,000 0.99900
รางวัลที่ 4 20,000 49,900 50/1,000,000 2.49500
รางวัลที่ 5 10,000 24,900 100/1,000,000 2.49000
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2,000 4,900 2,000/1,000,000 9.80000
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2,000 4,900 2,000/1,000,000 9.80000
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1,000 2,400 10,000/1,000,000 24.00000
ไม่ถูกรางวัล 0 -100 985,832/1,000,000 -98.58320
รวมอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง -40.0000

 

จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนให้หวยรัฐบาลนั้นมีอัตราติดลบถึงร้อยละ 40 เสมือนว่าถ้าเราลงทุนไป 100 บาท ผลตอบแทนที่จะได้รับคือขาดทุน 40 บาทเหลือเงินต้นเพียง 60 บาท ในขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยง ณ วันที่ 8 มกราคม 2559 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ต่อปีซึ่งหากลงทุนตามอัตราดอกเบี้ยจะเสมือนลงทุน 100 บาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5 บาท รวมเป็นเงิน 101.5 บาทสำหรับหวยใต้ดินนั้น มีผลตอบแทนที่คาดหวังติดลบไม่ต่างกับหวยรัฐบาล ไม่ว่าจะ 3 ตัวบนเต็ง มีอัตราผลตอบแทนติดลบร้อยละ 49.9 ในขณะที่ 3 ตัวบนโต๊ด มีอัตราผลตอบแทนติดลบร้อยละ 39.4 และ 2 ตัวบนที่มีอัตราผลตอบแทน ติดลบร้อยละ 39 เป็นต้นดังนั้นทางเลือกในการลงทุนในหวยรัฐบาลและหวยใต้ดินนั้นจึงไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน หากเรานำเงินในส่วนนี้ไปออมหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม เป็นต้นย่อมสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า หรือหากอยากลงทุนพร้อมกับได้รับอรรถประโยชน์ในรูปแบบการเล่นการพนันเสมือนเล่นหวยรัฐบาล สลากออมสินก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะยังคงได้รับอรรถประโยชน์ของรูปแบบการพนันคือ มีรางวัลใหญ่ให้ผู้ลงทุนได้ลุ้นทุกเดือนแต่เงินต้นยังคงอยู่ โดยสลากออมสินอายุ 3 ปีมีอัตราดอกเบี้ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3 (อัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ 8 มกราคม 2559 ตามประกาศธนาคาร หากฝากครบ 3 ปีจะได้รับดอกเบี้ย 1.5 บาทต่อหน่วย) และสำหรับเงินรางวัลนั้นสลากออมสินมีรางวัลใหญ่สุดคือ รางวัลที่ 1 โดยมีมูลค่าสูงถึง10 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดเงินรางวัลตามตารางต่อไปนี้

รางวัล จำนวนครั้งที่ออกรางวัล เงินรางวัล(บาท)
รางวัลที่ 1 3 10,000,000
รางวัลที่ 2 2 1,000,000
รางวัลที่ 3 2 20,000
รางวัลที่ 4 5 10,000
รางวัลที่ 5 10 5,000
รางวัลเลขสลากตรงกับรางวัลที่ 1
(ต่างงวดและหมวดอักษร)
10,000
รางวัลเชท้าย 6 ตัว 2 400
รางวัลเลขท้าย 5 ตัว 2 300
รางวัลเลขท้าย 4 ตัว 2 150

รายการรางวัลสลากออมสินตั้งแต่งวดวันที่16 พฤศจิกายน 2557

นอกจากนี้ การซื้อสลากออมสินจำนวนมากในครั้งเดียว จะเพิ่มความน่าจะเป็นที่จะได้รับรางวัลใหญ่ และเพิ่มโอกาสที่ผลตอบแทนที่ได้รับจริงใกล้เคียงกับผลตอบแทนที่คาดหวัง แต่การลงทุนในสลากออมสินนั้นก็มีข้อควรพิจารณาเช่นเดียวกับการลงทุนประเภทอื่น ในกรณีของสลากออมสินนั้นคือ สภาพคล่องเนื่องจากสลากออมสินหากไถ่ถอนก่อนครบ 3 ปี จะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำลงยิ่งไปกว่านั้นหากถอนก่อนครบ 3 เดือน จะถูกหักเงินต้นไปอีก 1 บาท จาก 50 บาทเหลือ 49 บาท คิดเป็นขาดทุนร้อยละ 4

ขอขอบคุณบทความจากคุณวิริยะ  ยิ้มยิ่ง สำนักงานบริหารการลงทุน