โรคผิวหนังที่มาพร้อมกับลมหนาว


นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ออกมาเตือนถึงโรคที่เป็นกันเยอะในช่วงนี้ อย่างโรคผิดหนัง โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับผิวหนังว่า ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ประกอบด้วยเซลล์และอวัยวะย่อยๆ ซึ่งไม่ใช่มีหน้าที่เพียงให้ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อร่างกาย เช่น รับความรู้สึก ควบคุมอุณหภูมิ ช่วยป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อม ป้องกันเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมภายนอกร่างกาย และยิ่งในช่วงที่อากาศในประเทศไทยมีความแปรปรวน “เที่ยงร้อน เย็นหนาว เช้าฝนตก” แบบนี้ ส่งผลให้ เชื้อไวรัสเติบโตได้ดี ทำให้เด็กเล็ก เด็กโตผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เจ็บป่วยได้ง่าย โดยในช่วงฤดูหนาวของทุกปีมักพบผู้ป่วยโรคผิวหนังจำนวนมาก ทั้งโรคผิวหนังเรื้อรังจำพวกสะเก็ดเงินและโรคผิวหนังที่เกี่ยวกับเชื้อไวรัส เช่น งูสวัด เริม สาเหตุหนึ่งเกิดจากช่วงฤดูหนาวเชื้อไวรัสสามารถเจริญเติบโตได้ดี และยังพบปัญหาผิวแห้งเนื่องจากอากาศแห้ง ลมแรง ดังนั้นการดูแลรักษาผิวหนังในช่วงฤดูหนาว คือ ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดหรือนานเกินควร เพื่อรักษาสมดุลของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวไว้ให้มากที่สุดเพราะในน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมีสารเพิ่มความชุ่มชื่นที่สร้างขึ้นเฉพาะตัว ทั้งยังมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นมิตรกับผิวช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในชั้นผิวหนัง ถ้าเรามีการชำระล้างมากเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งควรใช้ครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์และเสริมด้วยการทาครีมบำรุงผิวผิวเพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนังหลังอาบน้ำ 3 – 5 นาที ไม่ควรใช้ครีมผลัดเซลล์ผิวหรือครีมทาผิวขาวที่ผสมกรดวิตามินเอ เพราะอาจทำให้ผิวลอกแห้งและเกิดผื่นคันมากขึ้น สำหรับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุในช่วงที่มีอากาศเย็นจัดสามารถเช็ดตัวหรือชำระล้างข้อพับต่างๆ และจุดซ่อนเร้นแทนการอาบน้ำได้ด้วย ส่วนการแต่งกายก็ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายความหนาว ควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสมแทน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นเพื่อสุขภาพผิวและสุขภาพร่างกายที่ดีของเรา