มิโนะรุ ชิโรตะ ผู้คิดค้นนมเปรี้ยวเพื่อสุขภาพ “ยาคูลท์”


มิโนะรุ ชิโรตะ เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ.1899 โดยที่บ้านของชิโรตะ เป็นครอบครัวฐานะดี เขาจึงได้เข้าเรียนที่โรงเรียนริวโอดะ มีความเด่นทางคณิตศาสตร์นับแต่วัยเยาว์ แต่อ่อนด้านภาษา คุณครูฟุคุติ จึงช่วยดูแลจัดการ จนเขากลายเป็นเด็กที่มีผลการเรียนดีมาก จากนั้นเขาได้สอบเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาแพทย์ ตามที่พ่อต้องการที่มหาวิทยาลัยโทโฮคุ ไม่นานนัก ที่ญี่ปุ่นก็เกิดสงคราม ชิโรตะผู้มีนิสัยเกลียดการทะเลาะวิวาท จึงได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองอันสุขสงบอย่างเกียวโต และเขายังศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางในสาขาจุลชีววิทยาทางการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยเกียวโตเทโคคุ เพราะชิโรตะตั้งใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ จุลินทรีย์ ที่ก่อให้เกิดโรคภัยหลายชนิด โดยเฉพาะโรคบิด และโรคท้องร่วงในเด็ก

แนวคิดของชิโรตะ คือ การคัดสายพันธุ์ เอาจุลชีพดีเพาะเลี้ยงให้แข็งแรงและผลิตเป็นเครื่องดื่ม สำหรับให้ประชาชนพลเมืองดื่ม เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา

ต่อมาชิโรตะสามารถจัดจำแนกแยกจุลชีพ โดยเฉพาะกลุ่มแบคทีเรียจากลำไส้มนุษย์ได้จำนวนมากถึง 300 สายพันธุ์ จากนั้นชิโรตะจึงมีเป้าหมายสำคัญคือ การจำแนกแบคทีเรียที่สามารถอยู่รอดจากการเคลื่อนผ่านน้ำย่อยในช่องท้องได้ โดยที่ต้องไปถึงลำไส้เล็กอย่างปลอดภัย

จนกระทั่งในปี ค.ศ.1935 ชิโรตะประสบความสำเร็จในการคัดแยกจุลชีพสายพันธุ์ใหม่ที่มีความแข็งแรง และเจริญได้ดีในลำไส้เล็ก ช่วยในระบบการย่อยของมนุษย์ โดยตั้งชื่อว่า “แลคโต บาซิลลัส คาเซอิ ชิโรตะ” (Lactobacillus casei strain shirota) และในปีเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นปีทองของ ชิโรตะ เพราะเขาถือโอกาสจัดตั้ง “สถาบันชิโรตะ” ขึ้น ณ ตำบลโรนิน  จังหวัดฟูกูโอกะ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและผลิตยาคูลท์จำหน่ายทั่วญี่ปุ่น

จากนั้นไม่นานนักญี่ปุ่นเกิดสงครามและประเทศได้เกิดภาวะ ข้าวยากหมากแพง ทำให้ประชาชนขาดแคลนอาหารอย่างหนักทั่วประเทศ นั่นทำให้ชิโรตะ “ผลิตยาคูลท์ออกจำหน่ายในราคาถูกโดยไม่เกรงกลัวต่อภาวะขาดทุน เพื่อที่ประชาชนจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง”

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ชิโรตะ เริ่มต้นทำยาคูลท์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง แล้วยาคูลท์ก็ได้เริ่มออกจำหน่ายอีกครั้งในปี ค.ศ. 1950 ด้วยความพยายามอย่างหนักของชิโรตะ ทำให้ยาคูลท์ถูกจัดจำหน่ายไปทั่วญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว และเมื่อ ค.ศ.1955 ชิโรตะได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่โตเกียว โดยตั้งชื่อบริษัทว่า “ยาคูลท์” พร้อมกับควบคุมการจัดจำหน่ายอย่างทั่วถึงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

โดยในปี ค.ศ. 1969 ด้วยความมานะอุตสาหะของชิโรตะ ทำให้เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นที่ 4 จากสมเด็จองค์พระจักรพรรดิจนกระทั่งในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ 1982 เขาได้เสียชีวิตลง แต่ชื่อเสียงคุณงามความดีที่ทุกคนเชิดชูว่าเขาเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นายแพทย์ นักธุรกิจ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรรมจริง ยังสืบทอดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้