หนุนผู้ค้าในกรุงกู้รายละ 2 หมื่น ไร้ดอก 10 ปี


พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดภายหลังเป็นประธานประชุมคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานร่วมส่งเสริมและพัฒนารูปแบบการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการในชุมชนและลดภาระค่าครองชีพประชาชน ว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการสนับสนุนเงินทุนและสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการรายย่อยรายละไม่เกิน 20,000 บาท วงเงิน 100 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ย 10 ปี และมีระยะปลอดหนี้ 3 ปี

ทั้งนี้ ได้ประสานกับสถาบันการเงิน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถยกระดับตนเอง สร้างรายได้ที่มั่นคงมีสถานที่ค้าขายที่เป็นหลักแหล่งถูกต้อง และสามารถคืนพื้นที่ให้ กทม.เมื่อครบระยะเวลา 3 ปี ส่วนขั้นตอนพิจารณาหลักเกณฑ์และการอนุมัติสินเชื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของสถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อ ตั้งเป้าให้ได้ร้านหนูณิชย์ 5,000 ร้าน จาก 3,800 ร้าน ภายในปี 2560

“กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือ กทม. สำรวจและคัดเลือกร้านอาหารทั่วไปที่เข้าหลักเกณฑ์มีเมนู 35 บาท เป็นสมาชิกร้านอาหารหนูณิชย์ และหนูณิชย์ฟู้ด ทรัค เพื่อคัดเลือกเป็นหนูณิชย์ติดดาวต่อไป และ กทม.จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดหาสถานที่ขายสำหรับผู้ค้าจากจุดผันผ่อนต่างๆ เบื้องต้นจะให้จำหน่ายสินค้าที่บริเวณแยกพงษ์พระราม เขตปทุมวัน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนตลาดในพื้นที่ กทม.ให้เป็นตลาดต้องชม 6 ตลาด ประกอบด้วย

1.ตลาดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา

2.ตลาดสองคลองวัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน

3.ตลาดน้ำคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ

4.ตลาดน้ำวัดไทร เขตจอมทอง

5.ตลาดพูล เขตธนบุรี และ

6.ตลาดนางเลิ้ง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

พร้อมจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ร้านอาหารหนูณิชย์ และฟู้ดทรัคพรีเมียม ในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งจะถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ชั่ง ตวง วัด ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กทม.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการนำร่องจัดอบรมไปแล้ว 2 เขต คือ เขตพระนคร และเขตสัมพันธวงศ์