เพิ่งเคาะผ่านมติคณะรัฐมนตรีไปหมาด ๆ แถมยังไม่ทันได้ประกาศบังคับใช้ตามที่ระบุไว้ว่าเป็นวันที่ 16 ก.ย.นี้ สำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดอัตราภาษีสินค้าประเภทสุรา ยาสูบ และไพ่ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่ แต่ดูจะมีกระแสความเคลื่อนไหวต่อกระแสข่าวที่ออกมาในทันควัน
เช่น หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างกรมสรรพสามิต ได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวโดยยืนยันว่า การปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ส่วนสถานการณ์การกักตุนสินค้า ได้มีการประสานงานให้ผู้ประกอบการแล้ว ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นการขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้นเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังได้ระบุถึงการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม สินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มกระทบกับสิ่งแวดล้อม และ กลุ่มสินค้าบาป โดยได้เน้นสิ่งที่ทำลายสุขภาพ และมีภาษีใหม่ เช่น การเก็บภาษีจากค่าความหวาน รวมทั้งได้ยกเลิกการเว้นเก็บภาษีบางรายการในเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้แช่ 111 รายการ เช่น ชา กาแฟ ทำให้ สินค้าประเภทนี้หากเครื่องดื่มมีส่วนผสมของชา กาแฟ เพียง 1% จะถูกจัดเก็บทั้งหมด
ขณะที่ในส่วนของผู้บริโภคนั้น จากกระแสข่าวที่นำเสนอผ่าน Smartsme พบว่ามีการแสดงปฏิกิริยาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกรณีดังกล่าว ผ่านการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ มากมาย ขณะที่ในส่วนของผู้ที่สนับสนุนแนวคิดก็ยังพอมีให้เห็นบ้างแต่เพียงประปราย เช่น
คุณอภิรัช กล่าวแสดงความเห็นว่า : โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่แคร์ประชาชน เอาผลประโยชน์ให้พวกพ้องซะมากกว่าครับ หรือจะเป็นกรณีของคุณกฤษฎา ที่ระบุไว้น่าสนใจว่า การขึ้นราคาต้องคำนึงถึงการท่องเที่ยวด้วย นักท่องเที่ยวมาไทยมากเพราะกินดื่มในราคาไม่แพง อย่ามองว่าขึ้นราคาเพื่อให้คนไทยเลิกดื่มนั่นแค่มิติเดียว มันมีเรื่องของนักท่องเที่ยวด้วย ลำพังเบียร์ราคาครึ่งร้อย สถานบันเทิงบริการนักท่องเที่ยวก็ไปขายราคาสามเท่าสี่เท่าอยู่แล้ว ถ้าขึ้นเป็นเบียร์ขวดละร้อย คิดดูว่าขึ้นเป็นเท่าไหร่ ทำอะไรอย่ามองแค่มิติเดียว
คุณ Orange กล่าวว่า : เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ฉลาด แก้ที่ปลายเหตุนี่แหละมันง่ายดีใครเขาจะเดือดร้อนช่างหัวมัน ,คุณขุนโจนปลาช่อน ระบุว่า การขึ้นราคายังไงก็ต้องมีคนซื้อ เลิกผลิตดีกว่าใหน ๆอยากให้คนเลิกเล่าบุหรีแล้วก็จัดเต็มไปเลยปิดโรงงานไปซะ, คุณ Rachit กล่าวว่า การขึ้นราคากับการอยากให้คนเลิกมันคนละเรื่องครับ เป็นเรื่องของกลไกการเก็บรายได้เข้ารัฐ เช่นเดียวกับคุณเฉลิมพล ก็ระบุว่าถ้าอยากให้เลิกจริงก็อัพราคาให้มันเป็นซองละ 300-400 เลยครับแล้วค่อยไปกวาดล้างบุหรี่เถื่อนเอา
ที่กล่าวมาเป็นเพียงความเห็นส่วนน้อยที่หยิบยกขึ้นมากล่าวถึง เพราะในความเป็นจริงแล้วยังมีการแสดงความคิดเห็นอื่น ๆอีกมากมาย ที่สะท้อนถึงผู้บริหารที่รับผิดชอบ ก่อนถึงวันประกาศบังคับใช้จริงสำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วยอัตราภาษีสินค้าประเภทสุรา ยาสูบ และไพ่ใหม่ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ถึงตอนนั้นจะเห็นได้กันชัดเจนขึ้น
อ่านข้อคิดเห็นอื่นๆได้ที่ https://www.facebook.com/smartsme/posts/924975394319149