จีนเบียดสหรัฐฯ ตกบัลลังก์ประเทศที่มี “สตาร์ทอัพยูนิคอร์น” มากที่สุดเป็นครั้งแรก


จีนกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยเป็นครั้งแรก ท่ามกลางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่ดุเดือดของทั้งสองประเทศ

ตามรายงานของ inaugural Hurun Global Unicorn List 2019 เปิดเผยว่า จีนมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นจำนวน 206 ราย คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ที่มียูนิคอร์นจำนวน 203 ราย โดยสตาร์ทอัพอันดับต้นๆ ของจีน คือ Ant Financial บริการชำระเงินดิจิทัล โดยมีมูลค่าธุรกิจ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วย Bytedance บริษัทแม่เจ้าของ TikTok แอปพลิเคชันด้านความบันเทิงที่มีมูลค่าธุรกิจ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Didi บริการเรียกรถ ที่มีมูลค่าธุรกิจ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้าน สหรัฐฯ สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุด คือ Infor บริษัทซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่าธุรกิจราว 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้น IPO ในอีกไม่ช้านี้ ส่วนอันดับ 2 คือ JUUL Labs ผู้ผลิต e-cigarette ที่มีมูลค่าธุรกิจ 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นตามมา ประกอบด้วย อินเดีย 21 ราย, สหราชอาณาจักร 13 ราย, เยอรมนี 7 ราย, อิสราเอล 7 ราย, เกาหลีใต้ 6 ราย, อินโดนีเซีย 4 ราย, ฝรั่งเศส 4 ราย และบราซิล 4 ราย

อย่างไรก็ตาม รายงานถูกประกาศขึ้นในช่วงการทำสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ อย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นกรณี การแบนอุปกรณ์จาก Huawei, การขึ้นบัญชีดำสินค้าห้ามไม่ให้บริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ร่วมทำการค้ากับบริษัทจีน

ทั้งนี้ จากรายงานระบุว่า ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพยูนิคอร์น จำนวน 494 ราย ใน 24 ประเทศทั่วโลก (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2019)

ที่มา: qz.com