หากพูดถึงนักธุรกิจที่มักสร้างกระแสให้ตัวเองเป็นพูดถึง หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น อีลอน มัสก์ ที่การทวีตข้อความของเจ้าตัวในแต่ละครั้งกลายเป็นประเด็นบนหน้าสื่อ และไวรัลเป็นอย่างดี
อย่างกรณีล่าสุด อีลอน มัสก์ ทวีตข้อความว่า “I’m buying Manchester United ur welcome” หรือผมกำลังซื้อแมนฯยูไนเต็ด แน่นอนเรื่องที่มักส์โพสต์นั้นกำลังอยู่ในกระแสในโลกลูกหนัง เพราะหากใครที่เป็นแฟนฟุตบอลคงรู้ดีว่าตอนนี้ผลงานของแมนฯยูไนเต็ด ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก แถมแฟนบอลยังเอือมระอากับการบริหารงานของเจ้าของทีมอย่างตระกูลเกลเซอร์ และอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน มัสก์ก็ออกมาปฏิเสธทันควัน เมื่อมีคนมาถามว่า “เรื่องนี้เอาจริงหรือไม่?” โดยมัสก์ตอบกลับว่า “ไม่ นี่เป็นเรื่องตลกที่เล่นกันบนทวิตเตอร์ ผมไม่มีแผนที่จะซื้อสโมสรกีฬา”
หากย้อนเวลากลับไป เราจะพบวีรกรรมปั่นกระแสบนโลกทวิตเตอร์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น Smartsme คัดมาให้แล้ว
โพสต์ปั่นหุ้น Tesla
ย้อนกลับไปในปี 2018 อีลอน มัสก์ โพสต์ทวิตเตอร์ “Am considering taking Tesla private at $420. Funding secured.” โดยมีนัยว่า เจ้าตัวมีแผนจะนำ Tesla ออกจากตลาดหุ้น ด้วยวิธีการซื้อหุ้นคืนในราคา 420 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น พร้อมบอกอีกว่ามีแหล่งทุนพร้อมแล้ว
เมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าราคาหุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้นทันที หลังจากนั้นไม่นาน มัสก์ก็ออกมาโพสต์ว่า เปลี่ยนใจแล้ว Tesla ยังคงอยู่ในตลาดหุ้นต่อไป
โพสต์ป่วนตลาดคริปโตฯ
ปี 2020 มัสก์ ทวีตคำว่า “Doge” แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ตีความหมายถึงเหรียญคริปโตฯ ชื่อว่า “Dogecoin” ด้วยความอิทธิพลของเจ้าตัวทำให้มูลค่าของเหรียญ Dogecoin พุ่งสูง 299,330 ภายในระยะเวลา 30 นาที หรือจะเป็นการติดแฮซแท็ก #bitcoin เพียงแค่นี้ราคาบิตคอยน์ก็พุ่งสูงถึง 20%
จะซื้อ Coca-Cola เพื่อใส่โคเคนกลับไปในเครื่องดื่ม
ช่วงเมษายน 2022 ณ ตอนนั้นมัสก์ ประกาศเข้าซื้อทวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปได้ไม่นาน ก็มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัว ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “ต่อไป ตนจะซื้อ Coca-Cola เพื่อใส่โคเคนกลับไปในเครื่องดื่ม
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป พบว่ามีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในปี 1885 เครื่องดื่ม Coca-Cola มีส่วนผสมของโคเคนรวมอยู่ด้วย เนื่องจากถูกวางขายในรูปแบบยา ก่อนจะถูกนำออกในเวลาต่อมา เนื่องจากผู้คนเริ่มเห็นผลเสียของโคเคนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้บริษัทต้องปรับสูตรกลายมาเป็นน้ำอัดลมสีดำในที่สุด
มาถึงตอนนี้เรื่องนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
จะปลดหรือจะเพิ่ม?
มัสก์ เคยออกมาพูดว่าจะลดพนักงานบริษัทลง 10% เป็นผลมาจากรู้สึกแย่กับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย
มาวันนี้เจ้าตัวกลับมาพูดจากหน้ามือเป็นหลังมือว่าจะเพิ่มพนักงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยมักส์ ระบุว่าจำนวนของพนักงานที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกเพิ่มขึ้น แต่จำนวนของพนักงานประจำจะถูกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ทวิตเตอร์ของมัสก์ ทวีตข้อความว่า “จำนวนพนักงานจะเพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าพนักงานของ Tesla จะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า”
ข้อความดังกล่าวเกิดขึ้นให้หลังเพียง 2 วัน หลังจากเขียนอีเมลถึงผู้บริหาร Tesla ว่าเขารู้สึกแย่เป็นอย่างมากเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และต้องการลดพนักงาน 10% ของบริษัท โดยมัสก์ให้เหตุผลว่ามีพนักงานมากเกินไปในหลายพื้นที่ แต่จะไปปรับเปลี่ยนในเรื่องพนักงานรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น
หากพิจารณาการเคลื่อนไหวของมัสก์ ก็จะรู้ว่าเจ้าตัวชอบสร้างกระแสให้ตัวเองเป็นที่พูดถึงอยู่เรื่อย ๆ โดยหยิบเอาเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจมาต่อยอด ดังนั้น จะเป็นเรื่องจริงหรือแค่ล้อเล่นควรพิจารณาถึงความเป็นจริงว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่