Coca-Cola มุ่งมั่นที่จะรวบรวมและทำการรีไซเคิลขวดพลาสติก แทนที่จะเปลี่ยนเป็นกระป๋องอลูมิเนียมอย่างที่เป็นกระแส เพราะเชื่อมั่นว่าการเลือกใช้พลาสติกลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการรีไซเคิลอลูมิเนียม
ช่วงนี้กระแสของการเลือกใช้กระป๋องอลูมิเนียมทดแทนการใช้ขวดพลาสติก กำลังมาแรงทำให้ PepsiCo, Nestle และ Coca-Cola เริ่มใช้อะลูมิเนียมสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำดื่มพร้อมกัน เพื่อตอบสนองต่อการลดการทำลายล้างมหาสมุทรของโลกด้วยขยะพลาสติก
แต่การเปิดตัวเครื่องดื่มน้ำอัดลมของ Coca-Cola ในสหรัฐอเมริกา ยังมีการใช้ขวดพลาสติก ไม่ได้มีการเปลี่ยนเป็นแบบกระป๋องทั้งหมด เรื่องนี้ก็เป็นการยืนยันได้ว่าบริษัทไม่ได้พยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากพลาสติกเป็นอลูมิเนียม แต่เน้นไปที่การเก็บสะสมพลาสติกเพื่อทำการรีไซเคิลมากกว่า โดย Coca-Cola ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรวบรวมและทำการรีไซเคิลขวดที่ขายไปทั่วโลกในปี 2030
บริษัทใช้วิธีการที่แตกต่างกันทั่วโลกในการเก็บขวด ในบางประเทศจะใช้รูปแบบการคืนเงินมัดจำที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถส่งคืนขวดเพื่อแลกกับสิ่งจูงใจ เช่นเงินสดบัตรกำนัลหรือคะแนนสะสม นอกจากนี้ยังมีทำงานร่วมกับเอกชนที่จ้างเป็นตัวแทนในการเก็บรวบรวมขวดที่ใช้แล้ว
ขวด PET (polyethylene terephthalate) ที่ถูกนำมารีไซเคิลจะมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่ำกว่ากระป๋องอลูมิเนียมและขวดแก้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ ดังนั้นการรวบรวมและนำขวดกลับมาใช้ใหม่เป็นคำตอบที่ดีกว่าการเปลี่ยนมาใช้แบบกระป๋อง
อย่างไรก็ตามกลุ่มกรีนพีซจัดอันดับให้ Coca-Cola เป็นผู้ผลิตขยะพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว แต่ซีอีโอของโค้กกล่าวว่านี่เป็นเพียงภาพสะท้อนให้เห็นว่าเราคือ “แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุด”
อ้างอิง: