ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ธุรกิจร้านสะดวกซัก” เติบโตชนิดเป็นเท่าตัวในรอบหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากเป็นธุรกิจที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่พักอาศัยในเขตชุมชน มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด และการใช้เวลาของคนเมือง ซึ่งมีผลอย่างมากต่อร้านซักผ้าอัตโนมัติ เพราะคนรุ่นใหม่มีเวลาในชีวิตจำกัดมากขึ้น เวลาในการจัดการเรื่องส่วนตัวในชีวิตประจำวันจึงมีน้อยลง นั่นจึงทำให้การใช้บริการร้านสะดวกซักเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน
.
.
กิจการ “ร้านสะดวกซัก” คาดว่าจะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากตลาดในประเทศไทยเป็นตลาดที่เพิ่งเริ่มต้นในแง่ของจำนวนผู้เล่นและร้านสะดวกซัก ซึ่งยังถือว่าอัตราส่วนที่ยังคงมีน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ตัวอย่างเช่นในมาเลเซียที่มีประชากรราว 32-33 ล้านคน แต่มีร้านสะดวกซักมากกว่า 2 พันแห่ง สำหรับประเทศไทยมีประชากรประมาณ 66-67 ล้านคน แต่มีเพียงประมาณ 400-500 แห่งในปี 2562 และส่วนใหญ่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล
.
จากความต้องการของผู้คนในปัจจุบันที่เน้นความสะดวกสบาย พบว่าในปีที่ผ่านมา 2563 ธุรกิจ “ร้านสะดวกซัก” ซักผ้าหยอดเหรียญเติบโตเกือบ 2 เท่าจากปี 2562 โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนมียอดใช้บริการสูงกว่าปกติ 40%
.
สำหรับปี 2564 คาดว่า ตลาด “ร้านสะดวกซัก” มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า หรือมีสาขารวมจากทุกแบรนด์แล้ว อยู่ที่ประมาณ 2,000 สาขา จากปี 2563 ซึ่งมีแค่จำนวน 1,000 สาขาเท่านั้น
.
.
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า เมื่อต้นปี 2563 มีบริษัทผู้ให้บริการธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญประมาณ 252 ราย ยอดทุนจดทะเบียนราว 1,214 ล้านบาท มีอัตราขยายตัวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธุรกิจบริการ โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 มียอดจัดตั้งบริษัท 10 รายด้วยกัน ซึ่งมีอัตราเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 9 เท่า มูลค่าทุนจดทะเบียน 21 ล้านบาท ทำให้เกิดการขยายตัว 6 เท่า ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ เพราะอานิสงส์จากไลฟ์สไตล์ของคนสังคมเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้บริการเครื่องซักผ้า ด้วยเวลาในชีวิตที่ลดน้อยลง ทั้งจากการทำงาน จากชีวิตที่เร่งรีบ หรือความใส่ใจในการถนอมดูแลเสื้อผ้าที่ประณีตมากขึ้น ซึ่งส่วนมากมักเน้นการติดตั้งตามคอนโดมิเนียมและหอพัก ที่มีทั้งคนทำงาน นักศึกษา คนทั่วไปที่ไม่ได้มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเอง จากขนาดที่อยู่อาศัยที่จำกัดมากขึ้น
.
.
ปัจจุบันตลาดยังมีช่องว่างที่จะเติบโตได้อีกมากทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งประเมินว่าเฉพาะในกรุงเทพจะสามารถมี ร้านสะดวกซัก ได้ประมาณ 2,000-3,000 สาขา ทำเลที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต จะเป็นการเปิดบริการภายในสถานีบริการน้ำมันเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ครบทุกด้านทั้งที่จอดรถ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจประเภทนี้คือ การเตรียมพร้อมในส่วนของการสร้างความมั่นใจด้านบริการหลังการขาย พร้อมกิจกรรมการตลาดสร้างการรับรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์หน้าร้าน โปรโมชั่นแจกส่วนลด สะสมแต้มในการใช้บริการ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้งานและดึงดูดลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดี
.
ในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่า ใน 1 วันจะมี “ร้านสะดวกซัก” ผุดขึ้นมาราว 10 สาขา ซึ่งมีผลมาจากนักธุรกิจที่สามารถดำเนินธุรกิจจนได้ทุนคืนแล้ว ก็จะโอกาสต่อยอดเพิ่มจำนวนสาขาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
.
.
ขณะเดียวกันก็จะมีกลุ่มคนที่มองหาโอกาสทางธุรกิจแบบใหม่ ที่ก็เริ่มหันมาสนใจลงทุน “ร้านสะดวกซัก” มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการลงทุนของคนในยุคปัจจุบันที่นักลงทุนนิยมมองหาธุรกิจที่ใช้แรงงานน้อย ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายระหว่างทางมากจนเกินไป มีระบบการจัดการหน้าร้านและหลังร้านที่ดี ควบคุมห่วงโซ่อุปาทานได้ง่าย จึงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติ ที่ร้านสะดวกซักส่วนใหญ่เป็นเครื่องแบบหยอดเหรียญอัตโนมัติ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง
.
.
คุณพิมลวรรณ ชีวเกรียงไกร กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ได้ให้ความเห็นถึงอนาคตร้านสะดวกซักไว้ว่า “แม้ว่าในสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้หลายธุรกิจอาจประสบปัญหา แต่สำหรับธุรกิจ “ร้านสะดวกซัก” จัดว่ายังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สังคมปัจจุบันที่นิยมพักอาศัยในคอนโด อพาร์ตเมนต์ ในแหล่งชุมชน ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการซักผ้า ทำให้มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มขึ้น เมื่อใช้ชีวิตได้มากขึ้น มาตรฐานชีวิตก็จะดีขึ้น”
.
.
จุดเด่นของ “ร้านสะดวกซัก” ในยุคที่ตอบโจทย์เจนรุ่นใหม่
- เป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ มาตรฐานอุตสาหกรรม
- มีประสิทธิภาพซักผ้าได้สะอาด อบผ้าได้แห้ง ด้วยเวลาอันรวดเร็ว
- ประหยัดเวลาในการซักผ้า อบผ้า เวลาในชีวิตเพิ่มมากขึ้น
- บรรยากาศในร้านถูกออกแบบตกแต่งสวยงาม สะอาด สว่าง
- มีบริการไวไฟให้ใช้บริการ พร้อมพื้นที่ให้สามารถทำงานหรือนั่งรอระหว่างซัก
- มีกิจกรรมการตลาด โปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้บริการที่น่าดึงดูดสำหรับลูกค้า
.
ตัวชี้วัดที่น่าสนใจในธุรกิจ “ร้านสะดวกซัก”
- เป็นตลาดบลูโอเชี่ยน(มีลูกค้าต้องการ แต่ยังมีคนทำตลาดน้อย) ซึ่งมีโอกาสการเติบโตอีกอย่างน้อย 3-4 ปี
- จำนวนสาขามีมากขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี โดยปี 2563 มี 1,000 สาขา และในสิ้นปี 2564 คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกถึง 2,000 สาขาด้วยกัน
- อัตราการเติบโตด้านรายได้โดยประมาณอยู่ที่ 50 % ต่อปี จากสถิติมูลค่าการตลาดในปี 2562 ที่อยู่ราว 300-400 ล้านบาท
- และคาดว่าในปี 2564 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 900-1,000 ล้านบาทต่อปี
.
ธุรกิจแฟรนไชส์สะดวกซัก
.
ที่มา : จากการวิเคราะห์ของ Smart SME