หนุ่มออฟฟิศทิ้งเงินเดือน5 หมื่น กลับบ้านทำเกษตรออนไลน์ สร้างรายได้3 ล้านต่อเดือน


นายอรรถกร เอี่ยมเจริญ หรือ “อรรถ”หนุ่มวัย 29 ปี คนโพธาราม จังหวัดราชบุรี จบปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทำงานประจำบริษัทโฆษณาตั้งแต่เงินเดือน1.2 หมื่นจนเงินเดือนกว่า5 หมื่นบาท ด้วยหน้าที่การงานเติบโตความรับผิดชอบล่าสุด คือ ดูแลการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้กับลูกค้ารายใหญ่หลายแบรนด์

 

“ต้องบอกว่าเป็นเงินเดือนที่เยอะ แต่ความรับผิดชอบก็เยอะตามด้วยค่าใช้จ่ายในกรุงเทพฯ ก็เยอะ จนบางครั้งเครียดจึงตัดสินใจลาออก แม่ถามออกทำไมเงินเดือนสูงๆ เสียดายทำงานในห้องแอร์สบายๆ ชอบทำงานร้อนๆ ลำบากเหรอ ผมบอกว่า กลับบ้านมาทำแบบนี้ สบายใจกว่า ถึงรายได้น้อยแต่มีความสุข” คุณอรรถ ย้อนความหลัง

 

คุณอรรถ เล่าต่อว่า ตอนยังทำงานประจำ นำกล้าไม้ที่พี่ชายปลูกไว้ อย่าง สักทอง มะค่าโมง ประดู่ป่า ฯลฯ มาขายบนเพจออนไลน์ที่สร้างขึ้นมา พอเย็นวันศุกร์กลับบ้าน ไปแพ็กกล้าไม้ตามออร์เดอร์ ถึงวันจันทร์ นำกล้าไม้ขนใส่รถเก๋งคันเล็กๆ มาตระเวนส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ช่วงพักกลางวัน ทำอยู่เดือนกว่า ยอดขายเกือบ2 แสนบาท คิดว่าน่าจะไปได้ เลยลาออกมาทำเต็มตัว

 

“เดิมทีพี่ชายเพาะกล้าไม้อยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่ได้ทำออนไลน์ ผมเลยนำต้นกล้าพวกนี้ มาทำให้เติบโตในตลาดออนไลน์ ด้วยการเปิดเพจ มนทรี สวนป่าทำได้ 3 ปี ปัจจุบันจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดแล้ว” คุณอรรถ บอก

 

ข้อดีของการนำสินค้าเกษตรมาทำการตลาดออนไลน์ให้ฟัง การเปิดเพจ สามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด แอดมินเพจ สามารถเลือกการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า แบ่งตาม เพศ วัย อายุ หรือ ความสนใจของพวกเขาได้เลย สมมติ มีคนดูยูทูบเรื่องการปลูกต้นไม้ เดี๋ยวโฆษณาเพจของเขาจะไปเด้งในโซเชียลมีเดียของคนนั้นเลย ซึ่งเดือนๆ หนึ่ง แต่ละเพจของเขา จ่ายค่า “ยิงโฆษณา” ในเฟซบุ๊กเป็นเงินหลักแสน แต่ค่าตอบแทนก็คุ้มค่า
“ทุกวันนี้ มีออร์เดอร์วันละ 200-300 กล่อง จากหลายเพจ ทั้ง มะพร้าว ส้มโอ กล่องกระดาษ และ เพจหลัก มนทรี สวนป่า รวมแล้ว จ่ายค่ายิงแอด (โฆษณา) เดือนละ 3 แสนกว่าบาท สินค้าทางการเกษตร ในแบบของผม มีทั้ง ต้นกล้า ผลผลิตทางการเกษตร อย่าง มะพร้าว ส้มโอ และ อุปกรณ์แพ็กกิ้ง ทั้ง กล่องพัสดุ เทปกาว เรียกว่าอันไหนต่อยอดได้ก็ต่อยอดครับ” คุณอรรถ บอกยิ้มๆ

ยุคนี้เป็นยุคทองของการขายสินค้าออนไลน์ ใครที่จะเข้ามาตอนนี้ ขายอะไรก็ขายได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะสถานการณ์โควิด ด้วย ที่มาเซตระบบให้ธุรกิจทุกอย่างต้องมาทำบนออนไลน์ ถ้าใครไม่ปรับตัวจะลำบาก

 

“สินค้าเกษตรออนไลน์ นับเป็นตัวอย่างที่ดีในยุคโควิด ที่ปรับตัวยังไงให้อยู่รอด เพราะถ้าขายหน้าร้าน ก็ขายได้แต่คนในพื้นที่กับละแวกใกล้เคียง แต่ถ้าขายออนไลน์ สามารถขายให้คนทั้งประเทศ และคุยกับกลุ่มลูกค้าตรงเป้าหมาย ที่กำลังสนใจของ ของเราอยู่”

 

คุณอรรถ บอกว่า เพจธุรกิจเกษตรของเขาทำมาได้ 3 ปี เริ่มจากยอดขายศูนย์บาท จนปัจจุบันมีรายได้3 ล้านบาทต่อเดือน ล่าสุดจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดและเสียภาษีถูกต้อง ซึ่งสินค้าเกษตรจะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

“ธุรกิจของผม มีความได้เปรียบเชิงพื้นที่ อธิบายให้เห็นภาพ คือ เราอยู่ราชบุรี แต่ถ้าอยากขายสตรอว์เบอร์รี่ ต้องตะเกียกตะกายไปถึงเชียงใหม่ ซึ่งต้นทุนแพงกว่าคนอื่น แต่เรามีของดีใกล้ๆ อย่าง มะพร้าวน้ำหอมดำเนิน ส้มโอ อัมพวา แหล่งกล้าไม้ใหญ่ที่เมืองกาญจบุรีเรามองอันไหนมีศักยภาพต่อยอดได้ ก็นำมาทำเป็นโปรดักของเรา” คุณอรรถ ฉายภาพ