บอกต่อ 7 วิธีดูแลตัวเองและคนที่รักให้สุขกายสุขใจ ห่างไกลโรค
การมีสุขภาพที่ดีคือของขวัญล้ำค่าที่เราสามารถมอบให้กับตัวเองและคนที่รักได้ เพราะเมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีพลังที่จะออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย บทความนี้จึงมีเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพมาฝาก ทำตามได้ไม่ยากเลย!
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอวันละ 1.5 – 2 ลิตร และพยายามหลีกเลี่ยงน้ำที่มีน้ำตาลสูง เช่น กาแฟ ชาเย็น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ฯลฯ หากติดการดื่มน้ำเหล่านี้ ให้ลองเปลี่ยนมาดื่มชาสมุนไพรแทน จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
การดูแลผิวพรรณก็สำคัญ เพราะเมื่อภายนอกดูดี เราก็จะรู้สึกดีและมั่นใจในตัวเอง นอกจากจะดูแลจากภายในด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย นอนให้พอ อาจเสริมด้วยการดูแลภายนอก เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ หรือเข้าคลินิกเสริมความงาม เพราะปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยแก้ปัญหาผิว เช่น ถ้ามีริ้วรอยเยอะ อยากให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์คุณภาพสูง เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิวได้
บางคนเครียดโดยไม่รู้ตัว สะสมจนกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า วิตกกังวล บางคนก็หันไปพึ่งเหล้าพึ่งยาเสพติดจนไม่เป็นอันทำงาน เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นสังเกตตัวเองและคนรอบข้าง หากรู้สึกถึงความผิดปกติ เช่น รู้สึกสิ้นหวัง ไม่อยากทำอะไรแม้แต่สิ่งที่เคยชอบ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ หรือหากมีอาการติดเหล้าติดยา ก็ควรเข้ารับการรักษาที่สถานที่ฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปใช้อีก
การทานอาหารที่มีประโยชน์คือสิ่งสำคัญยิ่ง เราควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ของทอด ของหวาน รวมถึงอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก แฮม หมูยอ และเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เป็นต้น
โรคภัยไข้เจ็บสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว แต่หากรู้เร็วและตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ โอกาสที่จะรักษาให้หายก็สูงขึ้น จึงควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและเลือกโปรแกรมให้เหมาะกับช่วงวัย รวมถึงความเสี่ยงของแต่ละคนด้วย
ความเครียดไม่เพียงทำให้จิตใจย่ำแย่ แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องรู้จักจัดการกับความเครียด หาเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายจิตใจ เช่น เล่นเกม ดูหนัง เล่นดนตรี
จัดเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที อาจจะเลือกจากกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำแล้วสนุก หรือทำกับเพื่อนและคนในครอบครัวได้ เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน ตีแบตมินตัน ว่ายน้ำ โยคะ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ยังช่วยจิตใจสดชื่นแจ่มใสขึ้นด้วย
การดูแลตัวเองนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่เริ่มจากการใส่ใจตัวเองในทุกๆ วัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ อาจจะรู้สึกไม่ชินในช่วงแรก แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นนิสัยที่ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน