ร้านอาหารจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างมาก โดยเป็นเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่จะพลิกการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น หากผู้ประกอบการพร้อมที่จะปรับตัว เรียนรู้ และนำเข้ามาใช้
แล้วเทรนด์เทคโนโลยีที่คนทำธุรกิจในแวดวงนี้ต้องตามให้ทัน มีเรื่องอะไรบ้าง Smartsme จะพามาหาคำตอบกัน
1.ระบบอัตโนมัติ
ในปี 2024 ระบบอัตโนมัติจะเป็นฟันเฟืองสำคัญ ทั้งการปรุงอาหาร, การเตรียมอาหาร ตลอดจนการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการใช้ระบบอัตโนมัติจะช่วยลดต้นทุนการใช้แรงงาน, ปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และรักษามาตรฐานของอาหารอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งมีการชี้ให้เห็นแล้วว่าการใช้ระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมอาหารจานด่วนสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากถึง 11% และลดต้นทุนแรงงานได้ถึง 30%
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีเหล่านี้มีขีดจำกัด แม้ว่าอุปกรณ์จะตั้งโปรแกรมให้ปรุงอาหารออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็แทนที่ทักษะความชำนาญของเชฟผู้มีทักษะที่สามารถปรุงอาหารทั้งเมนูได้
ตัวอย่างร้านที่ใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งาน
-Little Caesar’s ใช้หุ่นยนต์ทำพิซซ่า
-McDonald’s ใช้เทคโนโลยี drive-thru
-Starbucks ใช้เครื่องชงกาแฟแบบ AI
2.แชทบอท
แชทบอท คือผู้ช่วยอัจฉริยะ ใช้ระบบ AI ในการสนทนากับลูกค้า ตอบคำถาม และจัดการงานที่พนักงานทั่วไปทำ โดยปกติคุณจะค้นหาร้านตามเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน แต่แชทบอทจะสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับระบบการจองเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้ง่ายขึ้น
สำหรับในปี 2024 ร้านอาหารร้อยละ 30 จะหันมาใช้แชทบอทในการโต้ตอบกับลูกค้าโดยอัตโนมัติ
3.ห้องครัวเสมือนจริง
ห้องครัวเสมือนจริงหรือ Virtual kitchens เป็นอีกหนึ่งกระแสที่ต้องจับตามอง โดยเทคโนโลยีรูปแบบนี้จะมุ่งเน้นไปที่คำสั่งซื้อ และการจัดส่งทางออนไลน์เท่านั้น ไม่ใช่ในลักษณะของการมานั่งรับประทานที่ร้าน ซึ่งโมเดลนี้จะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนทางธุรกิจ และมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงกระบวนการจัดส่งให้เหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ ห้องครัวเสมือนจริงยังมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยลูกค้าร้อยละ 70 ชอบสั่งอาหารทางออนไลน์ มากกว่าการมานั่งกินที่ร้าน
4.ซอฟต์แวร์จัดการต้นทุนอาหาร
การจัดการต้นทุนถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของร้านอาหาร โดยการใช้ซอฟต์แวร์จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ทั้งในเรื่องของสินค้าคงคลัง, มอนิเตอร์ราคาอาหาร และลดของที่ไม่จำเป็นลง เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่จะสิ้นเปลืองไปกับเรื่องสินค้าคงคลัง ซึ่งส่งผลต่อกำไรที่ลดลง
อีกทั้ง ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ยังให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการใช้ส่วนผสม และต้นทุน ทำให้เจ้าของสามารถตัดสินใจอย่างรอบคอบเกี่ยวกับราคาอาหาร
5.ซอฟต์แวร์สร้างระบบสมาชิก
นี่เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการสร้างความภักดีของลูกค้า และกระตุ้นให้กลับมาซื้อซ้ำ โดยซอฟต์แวร์ลักษณะนี้จะให้เจ้าของได้ตั้ง และจัดการโปรแกรมที่สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าสั่งอาหารมากิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะ ระบบคะแนน ส่วนลด และข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่จะได้รับในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง
โปรแกรมสะสมข้อมูลแบบสมาชิกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะมีการศึกษา พบว่าลูกค้าร้อยละ 43 มองว่าโปรแกรมสะสมคะแนนที่ดีจะช่วยกระตุ้นให้ไปร้าน
6.ตู้สั่งอาหารด้วยตัวเอง
ตู้สั่งอาหารด้วยตนเองเริ่มกลายเป็นภาพที่พบเห็นของอาหารจานด่วน และร้านที่ให้บริการแบบเร่งด่วน ซึ่งทำให้ลูกค้าสั่งอาหารได้โดยตรง แบบไม่ต้องโต้ตอบกับพนักงาน
การศึกษาโดย Qu เผยว่าร้อยละ 44 ของร้านที่ขายอาหารจานด่วน เตรียมเปิดตัวระบบสั่งอาหารผ่านตู้คีออสก์เป็นช่องทางการสั่งซื้อใหม่ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเร่งกระบวนการสั่งซื้อ และช่วยให้ร้านบริหารจัดการต้นทุนแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.เทคโนโลยีไร้สัมผัส
เทคโนโลยีไร้สัมผัสไม่เพียงแค่ระบบชำระเงินเท่านั้น แต่ยังรวมฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหารแบบไร้สัมผัส และการเข้าถึงเมนูแบบไร้สัมผัสผ่านระบบ QR บนเว็บไซต์ หรือแอปฯ ของคุณ
โดยลูกค้าสามารถสแกนรหัส QR ที่โต๊ะอาหารเพื่อดูเมนู และสั่งอาหารโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสเมนูจริง หรือตอบโต้อย่างใกล้ชิดกับพนักงาน แนวโน้มนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหารของลูกค้าด้วยการนำเสนอวิธีที่ปลอดภัย และถูกสุขอนามัย
เช่นเดียวกับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ตามข้อมูลของ Raydiant ระบุว่าลูกค้าร้อยละ 57 ชอบระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ท้ายที่สุดแล้ว เทคโนโลยีไร้สัมผัสไม่เพียงแต่จะปลอดภัย และถูกสุขอนามัย แต่ยังเป็นวิธีการชำระเงินที่รวดเร็ว ลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด
8.เมนูดิจิทัล
เมนูดิจิทัลกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นทั้งพนักงาน และลูกค้า ด้วยจอแสดงผลดิจิทัล หรือดูผ่านแท็บเล็ต ที่สามารถอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ดังนั้น ลูกค้าจึงเห็นรายการอาหาร และราคาล่าสุดอยู่เสมอ
วิธีนี้ช่วยลดต้นทุนการพิมพ์ และช่วยให้เจ้าของร้านอัปเดตเมนูได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับลูกค้าที่เลือกรายการอาหารได้ง่ายขึ้น โดยดูจากรูปภาพ และคำอธิบายอย่างละเอียด
9.ระบบ POS
ระบบ POS เป็นสิ่งสำคัญสำหรับร้านสมัยใหม่ โดยทำหน้าที่รับออเดอร์ จัดการสินค้าคงคลัง และติดตามยอดขาย ทั้งหมดทำได้ในที่เดียว ไม่เพียงเท่านั้น ข้อดีของระบบ POS คือทำให้การสั่งออเดอร์เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งพนักงานเสิร์ฟสามารถป้อนคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็วส่งตรงไปยังครัว ช่วยลดข้อผิดพลาด
นอกจากนี้ ระบบสามารถจัดการวิธีชำระเงินที่แตกต่างกัน เช่น บัตรเครดิต, สมาร์ทโฟน ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะจ่ายเงินได้หลากหลาย
10.จัดส่งแบบเดลิเวอรี่
แอปฯ ส่งอาหารเดลิเวอรี่กลายมาเครื่องมือที่มีอิทธิพลในตลาด ทำให้ลูกค้าสั่งอาหารจากร้านโปรด และส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังให้ผู้ประกอบการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น และเข้าถึงช่องทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ
เทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้การทำธุรกิจร้านขายอาหารของผู้ประกอบการมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: blog.orderchimps
เรื่องที่เกี่ยวข้อง