อินเดีย หันมาซื้อสินค้ากลุ่ม Luxury Beauty เพิ่มขึ้น

จากรายงานของ Kearney และ LUXASIA บริษัทที่ปรึกษาผู้สร้างแบรนด์ชั้นนําในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดการณ์ว่าตลาดสินค้า Luxury Beauty ในอินเดีย จะมีมูลค่าถึง 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571 และจะเพิ่มสูงขึ้น 4 เท่า คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2578 โดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 14 ต่อปี อินเดียจึงถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดทั้งในเอเชียและโลก โดยมีปัจจัยในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด คือการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม การขยายตัวของชนชั้นกลาง ความใส่ใจและการคํานึงถึงการใช้สินค้า Luxury ที่เพิ่มขึ้น บวกกับปีที่ผ่านมามีแบรนด์ต่างชาติจํานวนมากเข้ามาในตลาดอินเดีย เพื่อใช้โอกาสจากการที่เป็นผู้เล่นรายแรกๆ ที่เข้ามาครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาด แต่ด้วยอินเดียเป็นตลาดที่มีความซับซ้อน มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และประชากรศาสตร์ ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

สำหรับตลาด Luxury Beauty ในอินเดีย โดยเฉพาะสินค้าประเภทน้ำหอม และเครื่องสําอาง ร้านค้าที่มีหน้าร้านหรือร้านค้าออฟไลน์จะมีความโดดเด่นสําหรับการซื้อครั้งแรก เนื่องจากมีการแนะนําข้อมูลผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้า ซึ่งร้านที่เน้นขายสินค้าหลากหลายแบรนด์ เช่น Sephora และ Nykaa ได้ครองส่วนแบ่งกว่า 25% ขณะที่ร้านค้าที่จําหน่ายสินค้าแบรนด์เฉพาะ หรือแบรนด์เดียว เช่น MAC, Forest Essentials และ Dior ครองส่วนแบ่งตลาด 20% โดย 70% ของตลาด Luxury Beauty จําหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าออฟไลน์ ส่วนในเมืองรองของอินเดีย ซึ่งมีร้านค้าออฟไลน์ไม่มากนัก การใช้ช่องทางออนไลน์ก็จะช่วยให้ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบันช่องทางตลาดออนไลน์ หรืออีคอมเมิรซ์มีส่วนแบ่ง 30% ของภาพรวมทั้งหมดในตลาด Luxury Beauty

ทั้งนี้ ประชากรในกลุ่ม Millennials และ GEN Z กําลังเป็นผู้นําในตลาดความงามและเครื่องสําอางของอินเดีย โดยกลุ่ม Millennials และ GEN Z ที่อยู่ในวัยทํางานมีการซื้อสินค้าความงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของการซื้อสินค้าความงามและเครื่องสําอาง โดยมีการใช้จ่ายในเมืองรองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และให้ความสําคัญกับความคุ้มค่าและสินค้า Luxury Beauty ที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

ปัจจุบันผู้บริโภคอินเดียมีความรู้ความเข้าใจในสินค้า Luxury Beauty มากขึ้น โดยให้ความสําคัญกับการเลือกซื้อสินค้าจากส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ มีคุณภาพ นวัตกรรมการผลิต รวมถึงรูปแบบบรรจุภัณฑ์ และเชื่อถือคําแนะนําจากเพื่อนและครอบครัวมากกว่าการโฆษณารูปแบบอื่นๆ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็มีบทบาทสําคัญ และเมื่อรวมกับกลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมก็จะทําให้สินค้าสามารถเข้าครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นได้
ข้อมูลจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

คลิกอ่าน: สำรวจโอกาสส่งออกสินค้าไทย จากการขยายอุตสาหกรรมธุรกิจบริการในอินเดีย