เปิดโลกนมจากพืช และกลยุทธ์สู่ความสำเร็จของ SME ไทย

แม้ในวันนี้ ผลิตภัณฑ์จากพืชรูปแบบต่าง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงอย่างมาก และบางประเภทก็มียอดขายลดลงในช่วงนี้ แต่นมจากพืชยังคงเติบโตและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยนมทางเลือกยังครองอันดับหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากพืชทั้งหมด มีส่วนแบ่งตลาด 15% ในตลาดรวม และ 41% ในช่องทางที่เน้นสินค้าเพื่อสุขภาพ (Natural Channel) ตามข้อมูลจาก Food Institute

โดยในขณะนี้ ยอดขายนมจากพืชเติบโตขึ้นถึง 36% และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 11% ตามข้อมูลจาก Good Food Institute และ Plant Based Foods Association นมจากพืชจึงเป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์จากพืชที่ใหญ่ที่สุด และกำลังเติบโตทั่วโลกในอัตรา 15.5% ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทอาหารรายใหญ่ยังเข้ามาลงทุนในตลาดนี้มากขึ้น โดยใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของพวกเขาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยทิศทางในอนาคต ผลิตภัณฑ์นมจากพืชจะเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน การใส่ใจสุขภาพ และการบริโภคที่มีจริยธรรมมากขึ้น

เหล่านี้ทำให้นมจากพืชได้เปลี่ยนจากสินค้าเฉพาะกลุ่มมาเป็นสินค้าในกระแสหลัก โดยได้รับแรงผลักดันจากความตระหนักที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความต้องการอาหารที่หลากหลาย ภายในปี 2025 ตลาดนี้คาดว่าจะเติบโตในอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) มากกว่า 10% และมีมูลค่ากว่า 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต

แนวโน้มด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: ผู้บริโภคตระหนักถึงประโยชน์ของนมจากพืชมากขึ้น เช่น ลดคอเลสเตอรอล แคลอรี่น้อยลง และช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น
ความยั่งยืน: เมื่อความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น หลายคนเลือกผลิตภัณฑ์จากพืชเนื่องจากมีรอยเท้าคาร์บอนและการใช้น้ำน้อยกว่าการทำฟาร์มนม
นวัตกรรม: บริษัทต่าง ๆ กำลังพัฒนานมจากพืชจากแหล่งที่หลากหลาย เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่วลันเตา กัญชง และเมล็ดงา เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอาหารและรสนิยมที่หลากหลาย
วิถีชีวิตแบบยืดหยุ่น: การเพิ่มขึ้นของวิถีชีวิตแบบยืดหยุ่น (Flexitarianism) ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารที่เน้นอาหารจากพืชและบริโภคเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์นมเป็นครั้งคราว กำลังขยายฐานผู้บริโภค

พฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภคนมจากพืชที่กำลังเปลี่ยนไป

ความพรีเมียม: เมื่อคุณภาพและรสชาติดีขึ้น ผู้บริโภคยินดีจ่ายเงินเพิ่มสำหรับตัวเลือกพรีเมียม นมจากพืชที่มีสารอาหารเสริม เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และโพรไบโอติก จะได้รับความนิยมมากขึ้น
การปรับแต่ง: โดยแนวโน้ม “การปรับแต่งส่วนตัว” จะมีอิทธิพลต่อผลิตภัณฑ์ โดยผู้บริโภคมองหาตัวเลือกที่ตรงกับความชอบ เช่น แบบไร้น้ำตาล รสชาติ หรือมีโปรตีนเสริม
ความสะดวกสบาย: นมจากพืชพร้อมดื่มในบรรจุภัณฑ์พกพาจะครองตลาด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้บริโภคยุคใหม่
การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ: แพลตฟอร์มออนไลน์จะมีบทบาทสำคัญ โดยโมเดลการสมัครสมาชิกรายเดือนและการขายตรงถึงผู้บริโภคจะเป็นที่นิยม
ความชอบในแต่ละภูมิภาค: พฤติกรรมการซื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เช่น อเมริกาเหนือและยุโรปมีแนวโน้มบริโภคนมจากข้าวโอ๊ตและอัลมอนด์ ส่วนเอเชีย-แปซิฟิกอาจชอบนมถั่วเหลืองและนมข้าวเนื่องจากความคุ้นเคยในวัฒนธรรม

แนวโน้มการบริโภคนมจากพืชทั่วโลก

สหรัฐอเมริกา: สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมและการใช้นมจากพืช นมข้าวโอ๊ตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากเนื้อสัมผัสที่นุ่มและคุณสมบัติด้านความยั่งยืน กลุ่มผู้บริโภคหลักคือชาวมิลเลนเนียลและเจเนอเรชันซีที่ใส่ใจสุขภาพ
ยุโรป: ประเทศในยุโรป เช่น สวีเดน เยอรมนี และสหราชอาณาจักร มีการเข้าถึงตลาดสูง เนื่องจากการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโครงการที่เกี่ยวกับพืชช่วยกระตุ้นตลาด
เอเชีย-แปซิฟิก: ภูมิภาคนี้มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยนมถั่วเหลืองยังคงมีส่วนแบ่งตลาดสำคัญเนื่องจากการบูรณาการทางวัฒนธรรมมายาวนาน รายได้ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นและความเป็นเมืองกำลังสนับสนุนการใช้นมทางเลือกใหม่ เช่น นมอัลมอนด์และนมมะพร้าว
ลาตินอเมริกาและแอฟริกา: ตลาดเหล่านี้กำลังเกิดใหม่ วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น มะม่วงหิมพานต์และถั่วพื้นเมือง กำลังเป็นฐานที่นิยมในการผลิตนมจากพืช ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเกษตรในภูมิภาค

กลยุทธ์สำหรับผู้ประกอบการ SME
SME มีโอกาสพิเศษในการสร้างตลาดเฉพาะในภาคผลิตภัณฑ์นมจากพืช ผ่านการปรับกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริงต่าง ๆ ดังนี้

มุ่งเน้นความแตกต่าง: โดดเด่นด้วยการนำเสนอรสชาติที่ไม่ซ้ำใคร ส่วนผสมที่มีประโยชน์ หรือสูตรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิภาค ตัวอย่างเช่น การใช้พืชท้องถิ่นเป็นฐานของนมเพื่อลดต้นทุนและดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ใช้เทคโนโลยี: ลงทุนใน AI และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เพิ่มคุณภาพ และคาดการณ์แนวโน้มของผู้บริโภค

สร้างแบรนด์ที่แท้จริง: ความโปร่งใสเกี่ยวกับแหล่งที่มา แนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน และค่านิยมทางจริยธรรม เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภคยุคใหม่

ร่วมมือกับผู้ค้าปลีกและแพลตฟอร์ม: ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง การเปิดตัวโมเดลการสมัครสมาชิกรายเดือนยังช่วยให้มีรายได้ที่มั่นคง

ให้ความรู้แก่ผู้บริโภค: จัดเวิร์กช็อป สร้างเนื้อหาการศึกษา หรือร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลเพื่อเน้นประโยชน์ของนมจากพืชและสร้างความไว้วางใจในแบรนด์

บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน: ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเน้นในแผนการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับท้องถิ่น: ปรับแต่งผลิตภัณฑ์และความพยายามทางการตลาดให้สอดคล้องกับความชอบและนิสัยการบริโภคในแต่ละภูมิภาค

ตลาดนมจากพืชในปี 2025 เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับการเติบโตและนวัตกรรม เมื่อความต้องการของผู้บริโภคพัฒนาไปสู่ตัวเลือกที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนมากขึ้น ธุรกิจที่ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และตอบสนองต่อแนวโน้มระดับภูมิภาคและระดับโลกจะประสบความสำเร็จ สำหรับผู้ประกอบการ SME เส้นทางสู่ความสำเร็จอยู่ที่การสร้างความแตกต่าง การใช้เทคโนโลยี และการสร้างความเชื่อมโยงอย่างแท้จริงกับผู้บริโภค อนาคตของผลิตภัณฑ์นมจากพืชไม่เพียงแต่มีความหวัง แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิถีโลกอีกด้วย