Smart SME

Luckin Coffee
Business

Luckin Coffee คงกลยุทธ์ราคาต่ำ เพื่อชิงฐานลูกค้าตลาดกาแฟในจีน

ยักษ์ใหญ่กาแฟจีน Luckin Coffee ยืนยันความมุ่งมั่นในกลยุทธ์ราคาต่ำแม้ในช่วงที่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้น CEO Guo Jinyi กล่าวกับนักลงทุนหลังจากผลประกอบการปี 2024 ที่น่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาโปรโมชั่นกาแฟราคา RMB 9.9 (ประมาณ 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ) แม้จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่เน้นราคาย่อมเยาอย่าง Cotti Coffee

ผลประกอบการที่น่าทึ่งและการขยายธุรกิจ

  • รายได้และยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2024 กลุ่มบริษัทของ Luckin เพิ่มรายได้ขึ้น 38% เป็น RMB 34.5 พันล้าน (ประมาณ 4.7 พันล้านดอลลาร์) โดยยอดขายในไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้น 36% เป็น RMB 9.6 พันล้าน (ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์)
  • กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางต้นทุนที่สูงขึ้น แม้ว่าจะเผชิญกับต้นทุนด้านวัตถุดิบ, ค่าเช่า, ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นตลอดปี 2024 กำไรสุทธิประจำปีของ Luckin ก็เพิ่มขึ้น 3% เป็น RMB 2.9 พันล้าน (ประมาณ 405 ล้านดอลลาร์)

กลยุทธ์ราคาที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ในการประชุมผลประกอบการ CEO Guo Jinyi ระบุว่า Luckin Coffee มีความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและขนาดธุรกิจที่ช่วยบรรเทาความกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ จึงสามารถรักษาระดับราคากาแฟที่ RMB 9.9 ได้อย่างต่อเนื่อง “เราไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นราคา โปรโมชั่นกาแฟราคา RMB 9.9 ของเราจะคงให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” เขากล่าว

 

 

แม้ว่าสงครามราคาจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรอย่างชัดเจน เมื่อกำไรสุทธิของ Luckin Coffee เติบโตเพียง 3% ในปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ทะลุ 483% ในปี 2023 แต่ทั้ง Luckin และ Cotti ต่างก็ไม่ยอมถอยกลับ คู่แข่ง Cotti เองได้ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ว่ากลยุทธ์ลดราคา จะดำเนินต่อไปอีกสามปี เพื่อให้กาแฟมีความเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภคชาวจีน

อย่างไรก็ตาม แม้ CEO Jinyi ได้ชี้แจงว่า Luckin จะไม่โยนภาระต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค แต่รายงานในจีนชี้ให้เห็นว่าการลดราคาของ Luckin ได้ถูกจำกัดให้มีความถี่และขอบเขตของโปรโมชั่นลดลงในบางสาขา

การลงทุนในห่วงโซ่อุปทานและขีดความสามารถในการแข่งขัน
ความสามารถในการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตช่วยให้ Luckin ยังคงความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดร้านกาแฟที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีน

  • สัญญาซื้อขายกาแฟระยะยาว ในเดือนพฤศจิกายน 2024 Luckin ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 1.38 พันล้านดอลลาร์กับ ApexBrasil (องค์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนบราซิล) เพื่อจัดหากาแฟ 240,000 เมตริกตันในช่วงห้าปีข้างหน้า ซึ่งช่วยให้เกิดความแน่นอนด้านราคาในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
  • การขยายฐานการผลิตและศูนย์กระจายสินค้า บริษัทเริ่มดำเนินงานที่โรงงานคั่วกาแฟใหม่ ขนาด 570,000 ตารางฟุต ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู เมื่อเดือนเมษายน 2024 และเริ่มก่อสร้างศูนย์คั่วและศูนย์กระจายสินค้ามูลค่า RMB 3 พันล้าน (ประมาณ 21.2 ล้านดอลลาร์) ในเมืองท่าในคิงเตา เมื่อห้าเดือนต่อมา CEO Jinyi คาดว่า Luckin จะมีกำลังการคั่วกาแฟประจำปี 100,000 ตันภายในสิ้นปี 2025 “ขนาดและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเราช่วยให้เรามีเบฟเฟอร์ในการรองรับความกดดันต่าง ๆ ทำให้ผลกระทบจากการขึ้นราคาของเมล็ดกาแฟในช่วงนี้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้” CEO Jinyi กล่าว

การเติบโตของฐานลูกค้าและการขยายสาขา
แม้กลยุทธ์ราคาต่ำจะทำให้ผลกำไรของ Luckin ถูกกดดันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่แนวทางนี้ก็ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการขยายยอดขาย โดยจำนวนลูกค้าที่ทำธุรกรรมรายเดือนเพิ่มขึ้น 24.5% ในไตรมาสสุดท้าย เป็น 77.8 ล้านคน

ในปีที่ผ่านมา Luckin ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เปิดสาขาใหม่สุทธิ 6,066 แห่งในจีน รวมเป็นเครือข่าย 22,284 สาขา โดยที่ 65% เป็นสาขาที่ดำเนินการเอง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดสาขาใหม่ในสิงคโปร์ 21 แห่ง เพื่อให้รวมเป็น 51 สาขา พร้อมกับเปิดตัวในฮ่องกงด้วย 5 สาขา ยักษ์ใหญ่ร้านกาแฟของจีนยังขยายฐานการตลาดสากลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดตัวในมาเลเซียในเดือนมกราคม 2025

 

 

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการรักษาระดับราคาต่ำในตลาดกาแฟของ Luckin ถือเป็นกลยุทธ์ที่เสี่ยงแต่คาดว่าจะให้ผลในระยะยาว ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีและห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีในช่วงที่ราคาเมล็ดกาแฟและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศช่วยให้ฐานลูกค้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้กำไรสุทธิจะถูกกดดันจากสงครามราคา แต่แนวโน้มการเติบโตของรายได้และการขยายตลาดยังคงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคต

การแข่งขันในตลาดกาแฟจีนกำลังร้อนแรง โดยทั้ง Luckin และคู่แข่ง Cotti ต่างยืนหยัดในการนำเสนอกาแฟที่มีราคาย่อมเยาเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มกว้าง การวางแผนระยะยาวในด้านห่วงโซ่อุปทานและการลงทุนในศูนย์คั่วใหม่ ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ Luckin สามารถรักษาความยั่งยืนและแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Post Views: 13

Related Posts

ทุนจีน

3 ธุรกิจได้รับอานิสงส์ทุนจีนย้ายฐานการผลิต “นิคมอุตฯ-ก่อสร้าง-อสังหาฯ”

นิคมอุตสาหกรรม-ก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ 3 ธุรกิจได้รับอานิสงส์ ทุนจีนย้ายฐานการผลิต การลงทุนจากภาคเอกชนถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย คาดเม็ดเงินจากกลุม่ทุนจากจีนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม-ก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ 3 ธุรกิจได้รับอานิสงส์ ศูนย์วิจัยกรุงไทย (Krungthai COMPASS) คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเป็นจุดหมายสำคัญของประเทศจีนในการลงทุนเนื่องจากมีศักยภาพในการดึงดูด โดยในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา เม็ดเงินการลงทุนจากจีนอยู่ในช่วงขาขึ้น หากดูในปี 2567 จีนมีมูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนถึง 1.75 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าญี่ปุ่น 3-4 เท่าตัว ด้านธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์ในระยะแรกเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมจากความต้องการซื้อที่ดินและสาธารณูปโภค 2.ธุรกิจก่อสร้าง จากความต้องการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่อาจเพิ่มขึ้นราวปีละ 0.85-1.05 แสนล้านบาท และ 3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อขายให้ชาวต่างชาติซึ่งมักซื้อคอนโดมิเนียมที่มีราคาเฉลี่ยถึง 4.7 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนไทยถึง 114%     อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้ายังต้องติดตาม 5 ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน ได้แก่ 1) ภาวะสงครามการค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ-จีน 2) ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ของโลก 3) กฎระเบียบของโลกและประเทศคู่ค้า […]

คนเจน Z

ส่องเทรนด์ท่องเที่ยว ‘คนเจน Z’ ชอบนั่งรถไฟ หวังการลดปล่อยคาร์บอน

ผลสำรวจล่าสุดพบว่า “คนเจน Z” กังวลกับปัญหา “วิกฤติสิ่งแวดล้อม” จากการเดินทาง ทำให้พวกเขานิยมท่องเที่ยวแบบไม่นั่งเครื่องบิน หันมานั่งรถไฟท่องเที่ยว เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน สวนทาง “คนสูงอายุ” นิยมท่องเที่ยวด้วยการนั่งเครื่องบิน ไม่กังวลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คนรุ่นใหม่ กังวลปัญหา “วิกฤติสิ่งแวดล้อม” จากผลสำรวจใหม่พบว่า คนเจน Z ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 27 ปี เกือบครึ่งหนึ่งกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากวันหยุดพักร้อนของตน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เดินทางที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ไม่ถึงหนึ่งในสาม ทั้งนี้ ผลการวิจัยของ YouGov พบว่ามีเพียงร้อยละ 31 ของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุระหว่าง 60 ถึง 70 ปีเท่านั้นที่บอกว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเดินทางที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 26% ในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 78 ปี คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า โดยผู้ใหญ่วัย Gen-Z ร้อยละ 47 ซึ่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 27 […]

ซีอีโอ OpenAI

ซีอีโอ OpenAI บอกกับปากนี่คือทักษะทรงคุณค่าอันดับ 1 ในยุค AI ครองเมือง

หากตั้งคำถามไปลองถามผู้เชี่ยวชาญว่าอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าย่อมได้รับคำตอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะบอกนี่คือสุดยอดผู้ช่วยของมนุษย์ บางคนอาจจะบอกว่านี่ถึงเวลาการล่มสลายของหุ่นยนต์ ขณะที่บางคนอาจจะบอกว่านี่คือโมเดลที่ถูกพูดเกินจริง แต่สิ่งที่ทุกคนทั้งหมดเห็นด้วยคืออีกไม่ช้านี้ AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงานของผู้คนอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับโลกธุรกิจที่ผู้ประกอบการควรจะเตรียมตัวรับมืออย่างไรให้ดีที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรฝึกฝนทักษะพื้นฐานของมนุษย์ที่เครื่องจักรยังเข้ามาทดแทนไม่ได้ เช่น การเห็นอกเห็นใจ, ความสามารถในการปรับตัว และการตอบสนอง     สำหรับ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง ChatGPT ได้พูดถึงทักษะที่ต้องฝึกฝนหากต้องการเติบโตในโลกที่เต็มไปด้วย AI ดังต่อไปนี้ ลูกของผมจะไม่มีวันฉลาดกว่า AI ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Altman ซึ่งเป็นคนพัฒนา AI จะเห็นด้วยกับผู้ที่มองเห็นว่า AI จะสร้างการเปลี่ยนแปลงมากมายในอนาคต โดยเจ้าตัวมองว่า ในที่สุดเศรษฐกิจทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างกังวลมากเกินไปว่าหุ่นยนต์จะขโมยงานของทุกคน “เรามักจะพบงานใหม่ ๆ เสมอ แม้ว่าทุกครั้งที่เรามองเห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ” Altman กล่าว Altman คิดว่าทักษะอะไรในอนาคตที่ลูกหลานต้องมุ่งเน้นเพื่อการเติบโตในโลกที่เต็มไปด้วย AI เพราะอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่มีวันเติบโตขึ้นมาโดยฉลาดกว่า AI ซึ่ง […]