การทำธุรกิจยุคนี้ต้องตามเทรนด์ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปให้ทัน เพื่อสร้างสรรค์ ยกระดับไอเดียออกมาเป็นสินค้า วาง Brand Positioning คิดคอนเทนต์ ออกมาอยากมีคุณภาพ ครองใจผู้บริโภคก่อนคู่แข่ง
Pinterest แพลตฟอร์มที่เป็นดั่งเข็มทิศแรงบันดาลใจโลก เปิดเผยรายงาน Pinterest Predicts 2026 ซึ่งกลั่นกรองจาก Data จริงของผู้ใช้นับร้อยล้านคน กลายเป็น 8 สัญญาณสำคัญที่นักการตลาดและผู้ประกอบการไม่ควรพลาด หากต้องการปักหมุดธุรกิจให้ตรงใจผู้บริโภคในอนาคต

นี่คือ 8 เทรนด์เด่นของโลกในปี 2026 โดย Pinterest ที่ผู้ประกอบการ คนทำธุรกิจควรรู้เพื่อมาปรับใช้ กำหนดกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
เทรนด์ที่ 1 Glitchy Glam
หมดยุคเมคอัพที่ต้องกริบทุกองศา เพราะ Gen Z และ Millennials กำลังอินกับความสวยแบบ “ตั้งใจให้พลาด” (Glitch) เช่น การทาเล็บสลับสีคนละข้าง หรืออายแชโดว์สีตัดกันสุดขั้วแบบ Art piece
โอกาสธุรกิจ: แบรนด์บิวตี้ควรเลิกขายภาพลักษณ์ความเพอร์เฟกต์ แล้วหันมาทำแคมเปญที่สนับสนุนความ Real หรือออกผลิตภัณฑ์ที่เน้นการ Mix & Match สีสันได้ตามใจลูกค้า
เทรนด์ที่ 2 The Throwback Kid
พ่อแม่ยุคใหม่ (Millennials & Gen X) กำลังพาลูกหลานนั่งไทม์แมชชีนกลับไปหาความคลาสสิก เน้นของเล่นไม้ เสื้อผ้าวินเทจ และวิถีการเลี้ยงลูกที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยดีไซน์จากยุค 60s
โอกาสธุรกิจ: ตลาดสินค้าแม่และเด็กกลุ่ม Niche จะเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะงานดีไซน์ Retro และสินค้ามือสอง (Resale) ที่เน้นความทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทรนด์ที่ 3 Neo Deco
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของศิลปะ “อาร์ตเดโค” แต่ในเวอร์ชันปี 2026 จะถูกอัปเกรดให้ล้ำสมัยด้วยวัสดุโครเมียม (Chrome) เส้นสายเรขาคณิต และความแวววาวแบบ Futuristic
โอกาสธุรกิจ: ธุรกิจที่เน้นงานดีไซน์หรืองานออกแบบ Packaging หากหยิบจับคู่สีทอง/โครเมียมมาใช้ จะช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดู Luxury และดูเป็นผู้นำเทรนด์ในเวลาเดียวกัน
เทรนด์ที่ 4 Scent Stacking
หมดยุคการซื้อน้ำหอมขวดเดียวจบ ผู้บริโภคยุคใหม่ผันตัวเป็น “Alchemist” หรือนักปรุงน้ำหอมเอง ด้วยการฉีดผสมหลายเลเยอร์ (Layering) เพื่อสร้างกลิ่น Signature ที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหน
โอกาสธุรกิจ: เป็นโอกาสทองของแบรนด์เครื่องหอมในการขายแบบ Discovery Kit หรือเซตน้ำหอมขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสนุกกับการผสมกลิ่นเอง
เทรนด์ที่ 5 Extra Celestial
เมื่ออวกาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เทรนด์ความงามและไลฟ์สไตล์จะถูกย้อมด้วยสีโฮโลแกรม ความแวววาวแบบ Alien-chic และประกายดวงดาวที่ดูเหนือจริง
โอกาสธุรกิจ: แบรนด์เครื่องสำอางควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีความชิมเมอร์/กลิตเตอร์สูง รวมถึงสินค้ากลุ่ม Tech Gadget ที่เน้นงานดีไซน์ล้ำสมัยเหมือนหลุดออกมาจากหนัง Sci-Fi
เทรนด์ที่ 6 Mystic Outlands
การท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปสู่การตามหาความสงบในสถานที่ที่ดูเหมือน “หลุดออกมาจากเทพนิยาย” เช่น ป่าหมอกลึกลับ หรือสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ให้บรรยากาศ Surreal
โอกาสธุรกิจ: ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมควรเน้นการทำ Storytelling ที่ดูลึกลับ น่าค้นหา และการนำเสนอ Unseen Location ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
เทรนด์ที่ 7 Gimme Gummy
งานดีไซน์ในปี 2026 จะเน้นผิวสัมผัสแบบ “เจลลี่” (Gummy) ที่มีความนุ่ม เด้ง และโปร่งแสง มาพร้อมโทนสีพาสเทลที่ดูขี้เล่นและเข้าถึงง่าย
โอกาสธุรกิจ: นำไปปรับใช้กับการออกแบบเคสโทรศัพท์, เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ Graphic Design บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งความนุ่มนวลและสีสันแบบเจลลี่จะช่วยดึงดูดสายตาและเพิ่ม Engagement ได้ดีเยี่ยม
เทรนด์ที่ 8 Cool Blue
โทนสีฟ้าไอซ์บลู (Icy Blue) จะกลายเป็นสีทรงอิทธิพลที่เข้ามาแทนที่โทนสีร้อนแรง ให้ความรู้สึกหรูหรา นิ่ง สงบ แต่ทรงพลังแบบราชินีน้ำแข็ง (Subzero Sophistication)
โอกาสธุรกิจ: แบรนด์แฟชั่นและบิวตี้ควรเริ่มพัฒนาสินค้าโทนสีฟ้าพาสเทล หรือร้านอาหาร/คาเฟ่ที่ใช้การตกแต่งด้วยโทนเย็นจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่โหยหาความสดชื่นในปี 2026
แน่นอนว่า 8 เทรนด์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่นหรือดีไซน์ แต่มันคือ “แผนที่ล่วงหน้า” ที่จะช่วยให้ธุรกิจมองเห็น Insight และสามารถวาง Strategic Plan ได้อย่างแม่นยำ ใครที่กำลังมองหาทางลัดสู่ความสำเร็จในปี 2026 ข้อมูลชุดนี้คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มา: socialmediatoday
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Post Views: 67