เปิด 5 มาตรการรับมือ “กำแพงภาษี” รัฐบาลไทยเตรียมแผนไว้อย่างไร

สหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ได้กำหนดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ ครั้งใหม่ โดยประเทศไทยโดนในอัตรา 36% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยอย่างแน่นอนเนื่องจากอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย

สำหรับการกำหนดอัตราภาษีใหม่นี้ได้เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย. เป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้มีการประชุมกับหน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือกันหามาตรการรับมือในเรื่องนี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ถูกมอบหมายให้ไปเจรจากับสหรัฐฯ ในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องเจรจาแบบ Win-Win รู้ปัญหาทั้งของไทยและสหรัฐฯ เพื่อให้การเจรจาได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด โดยให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วน

อีกทั้ง เบื้องต้นได้เตรียม 5 แนวทางไว ดังต่อไปนี้

1.นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น พิจารณาจากสินค้าที่ไทยต้องการใช้เป็นหลัก เช่น สินค้าเกษตร, เครื่องในสัตว์, พลังงาน

2.ทบทวนการเก็บภาษีนำเข้า พิจารณาจากสินค้าที่เป็นไปได้ว่าจะเก็บภาษีในอัตราไม่สูงนัก เพื่อให้ดุลการค้ามีความสมดุลระหว่างกัน

3.ลดขั้นตอนการค้ากับสหรัฐฯ ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น

4.รับมือสินค้าจากประเทศที่สามเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อเลี่ยงภาษี โดยเรื่องนี้สหรัฐฯ ให้ความกังวล

5.ปรับโครงสร้างการลงทุน ให้นักธุรกิจไทย ภาคเอกชนไปลงทุนในสหรัฐ มากขึ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• เป็นคนเกินร้อย! ทรัมป์เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 104% หากไม่หยุดตอบโต้