ต๊อบ เถ้าแก่น้อย

เกิดอะไรกับ “ต๊อบ เถ้าแก่น้อย” ทำไมถึงลาออกจากผู้บริหาร เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ

กลายเป็นเรื่องในแวดวงธุรกิจที่น่าสนใจเมื่อ นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือต๊อบ เถ้าแก่น้อย ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มาดูกัน

 

ก.ล.ต. สั่งลงโทษทางแพ่ง

 

จุดเริ่มต้นมาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบและมีมติใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับคุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ (ต๊อบ) และพวกรวม 5 ราย โดยอาศัยข้อมูลภายใน (Insider Trading) ทีส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (TKN) ที่ตนรู้ หรือครอบครอง

 

โดยในไตรมาส 3/2565 TKN มีกำไรสุทธิจำนวน 179.97 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลรอบที่ 2 (รอบพิเศษ) สำหรับผลการดำเนินการของไตรมาสดังกล่าว ในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น เป็นข้อเท็จจริงที่มีสาระสำคัญด้านบวกต่อราคาหุ้น TKN ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเป็นการทั่วไป

 

นายอิทธิพัทธ์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบริษัท และนายณัชชัชพงศ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ (ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ) ได้รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าว นายอิทธิพัทธ์ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางพนิดา และนายณัชชัชพงศ์ ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคล 2 ราย ได้แก่ นางสาวฐิติรัตน์ และ นายจักรพันธ์ ก่อนที่ TKN จะเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

 

ก.ล.ต. สั่งให้คุณอิทธิพัทธ์และพวก ชดใช้เงินค่าปรับทางแพ่ง และเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ ที่ได้รับจากการกระทำความผิด รวมกว่า 16 ล้านบาท

 

ตัดสินใจลาออก

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ ขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้รับทราบการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวของสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาและรวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

 

อย่างไรก็ตามนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทระบุว่าเหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ และจะเร่งหาผู้บริหารคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง และรายงานความคืบหน้าต่อไป

 

สะท้อนจริยธรรมการทำธุรกิจ

 

การลาออกของ “ต๊อบ เถ้าแก่น้อย” จากตำแหน่งผู้บริหาร สะท้อนประเด็นด้านจริยธรรมการดำเนินธุรกิจ (Business Ethics) และธรรมาภิบาล (Good Corporate Governance) อย่างชัดเจน การที่ผู้ก่อตั้งถูก ก.ล.ต. สั่งลงโทษทางแพ่งในข้อหาใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทำลายความไว้วางใจของผู้ถือหุ้นรายย่อย และนักลงทุนในตลาดทุนอย่างร้ายแรงที่สุด

 

แม้ว่าบริษัทจะยืนยันว่าธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ แต่การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับหลักการสำคัญที่ว่าผู้บริหารบริษัทมหาชนมีสถานะเป็น “ผู้ดูแลผลประโยชน์” ของทุกคน การยอมรับโทษและลาออกจึงเป็นมาตรการบังคับทางกฎหมายและการแสดงความรับผิดชอบขั้นพื้นฐาน เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสขององค์กรต่อสาธารณชนในระยะยาว

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ