ถอดรหัส! Hot Pot ประกาศปิดสาขาทั้งหมด เหลือไว้เพียงความทรงจำ

แม้ว่าในอดีต HOT POT เคยเป็นร้านสุกี้-ชาบู ที่มาแรงแห่งยุค มีสาขาเกือบ 200 แห่ง ทั่วประเทศไทย แต่มาวันนี้เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจำนวนสาขาของ HOT POT เริ่มลดลงจากหลักร้อยเข้าสู่หลักหน่วยเหลือ 4 สาขา จนกระทั่งล่าสุดออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าทุกสาขาที่ให้บริการจะถูกปิดลง

เฟซบุ๊กแฟนเพจ Hotpot Buffet ได้โพสต์ข้อความว่า Hotpot Buffet ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางร้านต้องขอปิดตำนาน Hotpot Buffet ไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ

 

 

ร้าน Hotpot Buffet

 

สำหรับ Hot Pot เป็นร้านอาหารอยู่ในเครือ JCKH ของตระกูล “เตชะอุบล” หากใครยังจำได้ก่อนหน้านี้ร้าน Daidomon ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มดังกล่าวก็ได้ปิดสาขาไปแล้วทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่าธุรกิจร้านอาหารอาจต้องมีการปรับกลยุทธ์ ปรับตัวให้เข้ากับบริบทในยุคปัจจุบัน และต้องมองหาบริการใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่

ผลประกอบการบริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน)

– ปี 2563 รายได้รวม 701 ล้านบาท ขาดทุน -142 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้รวม 444 ล้านบาท ขาดทุน -340 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้รวม 544 ล้านบาท ขาดทุน -228 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้รวม 398 ล้านบาท ขาดทุน -109 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า ผลประกอบการย้อนหลังของบริษัทมีตัวเลขขาดทุนสะสมมาโดยตลอด จึงทำให้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเป้าหมาย แบรนด์ร้านอาหารไหนที่มองดูแล้วว่าจะมีโอกาสกลับมาพลิกฟื้นกำไรได้น้อยก็ควรปิดไป และต้องไม่ลืมว่าการทำร้านอาหารต้องแบกภาระต้นทุนที่สูง

ปัจจุบันการแข่งขันของร้านอาหารค่อนข้างจะดุเดือดเลยทีเดียว สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่าธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับต้นทุนทางธุรกิจที่ค่อนข้างสูง ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่อยู่ในภาวะ “ขาดทุน” นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นความท้าทายรออยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น, ค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับตัว, กำลังซื้อของคนไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว ที่กดดันทิศทางการทำกำไรของธุรกิจ ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นปัจจัยฉุดรั้งเช่นกัน

โดยแบรนด์ร้านอาหารที่อยู่ในเครือ JCKH พบว่ามีคู่แข่งจำนวนมากที่อยู่ในกลุ่มอาหารประเภทนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป หากพูดถึง Hot Pot แล้ว พบว่าเป็นการรวมกันระหว่างสุกี้กับจิ้มจุ่ม ซึ่งจะเห็นว่าด้วยความครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็อาจเป็นความเสียเปรียบเมื่อลงสนามเจอกับแบรนด์คู่แข่งที่เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเลย แน่นอนว่าลูกค้าจึงเลือกไปใช้บริการแบรนด์เหล่านั้นแทน ลองนึกภาพหากเป็นสุกี้ ลูกค้าก็คงเลือก เอ็มเคสุกี้ หรือไม่ก็สุกี้ตี๋น้อย

อย่างไรก็ตาม JCKH ยังมีร้านอาหารที่อยู่ภายใต้การบริหาร ไม่ว่าจะเป็น เจิ้งโต่วแกรนด์, ชาบู โทโมะ, เบอเกอร์ & ล็อบสเตอร์, อั่ย หั่ว กัว แต่แบรนด์เหล่านี้ต้องเจอคู่แข่งในตลาดที่เขี้ยวลากดินไม่แพ้กัน