ทำไม? แอป Shein-Temu ถึงเป็นที่นิยมของนักช้อป หันมาซื้อของมอบเป็นของขวัญช่วงเทศกาล

December 15, 2024

ในช่วงท้ายปีแบบนี้ ใครหลายคนเริ่มมองหาสิ่งของเพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้กับคนที่เรารู้จัก แน่นอนว่าด้วยความสะดวกสบายทำให้แพลตฟอร์มในรูปแบบของอีคอมเมิร์ซกลายเป็นที่นิยม ถูกเลือกให้เป็นช่องทางซื้อ-ขายสินค้าที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย

หากพูดถึงแพลตอีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นที่พูดถึงโดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน คงหนีไม่พ้น แอป Shein-Temu ที่อาจถูกมองข้าม แต่แท้จริงแล้วทั้งคู่คือคู่แข่งตัวฉกาจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ด้วยจุดเด่นในเรื่องสินค้าราคาถูกจำนวนมากมาย และส่วนใหญ่จัดส่งโดยตรงจากพ่อค้าจากประเทศจีนแบบเรียลไทม์

อีกด้านหนึ่งทั้ง Shein-Temu กำลังเอาชนะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากชาติตะวันตกในช่วงเทศกาลวันหยุด ด้วยโมเดลธุรกิจ และโฆษณาดิจิทัลมากมาย

การเติบโตระดับโลก

Salesforce บริษัทซอฟต์แวร์ คาดการณ์ว่ายอดซื้อสินค้าออนไลน์ประมาณ 1 ใน 5 ในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย และแคนาดา โดยเป็นฐานลูกค้าหลักของแพลตฟอร์มเหล่านี้ รวมถึงประเมินว่าจะสร้างรายได้จากการขายทั่วโลกนอกประเทศจีนประมาณ 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่จะไปที่ Shein กับ Temu

เมื่อไปถามลูกค้าอย่าง Lisa Xiaoli Neville ผู้จัดการองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยอาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส บอกว่าห้องนอนในบ้านเต็มไปด้วยกางเกงยีนส์ รองเท้า เล็บปลอม และสินค้าอื่น ๆ ที่ซื้อมาจากแพลตฟอร์มนี้ เช่น ต่างหูคู่ละ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเห็นโฆษณาทางเฟซบุ๊ก

ด้าน Neville อายุ 46 ปี บอกว่าเธอประมาณการว่าใช้จ่ายอย่างน้อย 75 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เดือน ซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์ม Shien เช่น ที่เปิดเปลือกไข่, เครื่องปอกแอปเปิ้ลแบบพกพา และเครื่องคว้านแอปเปิ้ล โดยทั้งราคาต่ำกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะไม่เคยทำอาหาร แถมยังแพ้แอปเปิ้ลอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีการเลือดของขวัญจากแพลตฟอร์มเพื่อมอบให้กับคนในครอบครัวแล้ว

“สินค้าส่วนใหญ่ในรถเข็นออนไลน์จะมีราคาต่ำกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งเสื้อยืดลายกราฟิกที่ตั้งใจจะซื้อให้ลูกชาย และกางเกงยีนส์ รองเท้าโลฟเฟอร์สำหรับลูกสาว”

Neville บอกเพิ่มเติมว่า โดยรวมแล้ววางแผนจะใช้เงินประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อของขวัญ โดยเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าปีก่อนที่ใช้เงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอื่นเป็นอย่างมาก

เมื่อมองที่กลยุทธ์ She in มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงวัยรุ่นเป็นหลัก โดยร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย หากค้นหาชื่อแบรนด์จะพบเนื้อหาที่กำลังโปรโมทลดราคา Black Friday ของแพลตฟอร์ม รวมถึงเสนอเสื้อผ้า เครื่องประดับอินเทรนด์หลายสิบชิ้นที่มีราคาถูก

ขณะเดียวกัน Temu ก็ได้รับความสนใจไม่ต่างกัน เพราะสามารถดึงดูดผู้คนทุกเพศ ทุกวัยได้ โดย Similarweb บริษัทซอฟต์แวร์รายงานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า Temu เป็นเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีผู้คนเข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าไปเพื่อหาของที่ใช้งานได้จริงอย่าง พรมเช็ดเท้า ตลอดจนสินค้าไร้สาระ นอกจากนี้ ยังจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าพิเศษในวัน Black Friday บางรายการลดสูงสุด 70% จากราคาขายปลีก

แพลตฟอร์มทั้งสองยังตั้งคลังสินค้าในสหรัฐฯ เพื่อเร่งเวลาจัดส่ง และช่วยให้การแข่งขันกับ Amazon มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งลดขั้นตอนในการจัดส่งสินค้าที่มาจากจีนโดยตรง

ด้วยความที่สินค้ามีราคาถูก ทำให้ลูกค้ามักซื้อสินค้ามาเล่น ๆ แม้จะไม่ได้ใช้สินค้านั้นก็ตาม ทำให้นักวิจารณ์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยว่านี่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการละเมิดแรงงานที่อาจเกิดขึ้นได้จากสินค้าที่ถูกจัดส่งไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

ที่มา: inc

เรื่องที่เกี่ยวข้อง