นับถอยหลัง 1 ม.ค. 68 สเปนบังคับติดสัญลักษณ์วิธีคัดแยกขยะบนบรรจุภัณฑ์

อีกไม่ถึง 1 เดือน สเปนเตรียมบังคับใช้ข้อกำหนดการติดฉลากใหม่บนบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค (B2C) ครอบคลุมบรรจุภัณฑ์ในครัวเรือนทุกประเภทวัสดุ เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในครัวเรือน และสินค้าอุปโภคบริโภค ทุกชิ้นจะต้องมีสัญลักษณ์พิเศษเพื่อระบุการคัดแยกขยะ ช่วยให้ผู้บริโภคทราบวิธีทิ้งขยะอย่างถูกต้องในถังขยะที่เหมาะสม

กฎหมายนี้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา 1055/2022 ที่ประกาศใช้ในปี 2565 ซึ่งก่อนหน้านี้การติดฉลากดังกล่าวเป็นเพียงทางเลือก แต่หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2568 บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดที่จำหน่ายในสเปนจะต้องมีฉลากชัดเจน โดยระบุวิธีการแยกขยะ วัตถุประสงค์ของมาตรการคือการส่งเสริมการรีไซเคิล ลดขยะที่ไม่สามารถจัดการได้ และสนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืนของประเทศ

ข้อกำหนดเกี่ยวกับฉลาก

  • ขนาดและความชัดเจน: สัญลักษณ์ต้องมีขนาดอย่างน้อย 8 มิลลิเมตร เห็นได้ชัดเจน อ่านง่าย และติดถาวรบนบรรจุภัณฑ์
  • ข้อความ: ต้องใช้ข้อความที่เข้าใจง่าย ห้ามใช้คำว่า “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” หรือ “respetuoso con el medio ambiente” เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด
  • สี: ควรใช้สีที่แสดงถึงประเภทของถังขยะ ได้แก่ เหลือง (พลาสติกและโลหะ), น้ำเงิน (กระดาษ), น้ำตาล (ขยะอินทรีย์), และเขียว (แก้ว) หากใช้สีอื่นต้องมีข้อความอธิบายเพิ่มเติม

สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ประกอบด้วยวัสดุหลายประเภท หากไม่สามารถแยกวัสดุได้ จะต้องระบุวัสดุที่มีสัดส่วนมากที่สุด แต่หากแยกวัสดุได้ จะต้องติดฉลากแยกแต่ละส่วน เช่น ขวดแก้วที่มีฝาพลาสติก ต้องติดสัญลักษณ์ทั้งสำหรับแก้ว (ถังสีเขียว) และพลาสติก (ถังสีเหลือง)

สำหรับประโยชน์และความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ มาตรการนี้เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการยกระดับกระบวนการผลิตและการจัดการบรรจุภัณฑ์สู่เป้าหมายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Carbon Neutral หรือ SDG Goals ผู้ส่งออกไทยที่มีการค้ากับสเปนควรปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบใหม่ และใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ช่วยลดของเสีย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกีดกันทางการค้า

ตัวอย่างกรณีศึกษาในประเทศอื่น ๆ

  • เยอรมนี มีระบบการแยกขยะที่เข้มงวด โดยใช้ถังขยะหลากสีคล้ายกับสเปน เช่น ถังเหลืองสำหรับพลาสติกและโลหะ ถังฟ้าสำหรับกระดาษ และถังเขียวสำหรับแก้ว นอกจากนี้ยังมีระบบคืนเงินมัดจำ (Deposit Return System) สำหรับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ขวดและกระป๋อง
  • ญี่ปุ่น เน้นการแยกขยะในครัวเรือนอย่างละเอียด บรรจุภัณฑ์พลาสติกและโลหะจะต้องแยกจากกัน รวมถึงการระบุประเภทของพลาสติกด้วยสัญลักษณ์เฉพาะ เช่น PET หรือ HDPE เพื่อให้กระบวนการรีไซเคิลมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • สวีเดน มีการรีไซเคิลขยะมากกว่า 90% โดยรัฐบาลกำหนดให้ทุกครัวเรือนแยกขยะออกเป็นหลายประเภท เช่น อลูมิเนียม กระดาษแข็ง และแก้ว ทั้งยังมีศูนย์รีไซเคิลที่ประชาชนสามารถนำขยะมาทิ้งได้ฟรี

การบังคับใช้มาตรการในสเปนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับโลกที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ผู้ประกอบการไทยควรติดตามแนวทางและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก