ประกันภัยทุเรียน

เกษตรกรอุ่นใจ! ‘ประกันภัยทุเรียน’ นวัตกรรมวัดความเร็วลม ลดความเสียหายผลผลิต

ในยุคที่สภาพอากาศแปรปรวนสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรอย่างไม่อาจคาดเดา “ทุเรียน” ราชาผลไม้ไทยที่สร้างรายได้มหาศาลจากการส่งออก กำลังได้รับการปกป้องด้วยนวัตกรรมประกันภัยทุเรียนรูปแบบใหม่ ที่ใช้ “ความเร็วลม” เป็นดัชนีชี้วัดความเสียหาย นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการพัฒนาระบบประกันภัยพืชผลทางการเกษตรโดยอาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนอย่างเป็นรูปธรรม

มาดูกันว่านวัตกรรมนี้ ทำงานอย่างไร และลดความเสี่ยง เสียหายได้ขนาดไหน ไปดูกัน!

ประกันภัยทุเรียน นวัตกรรมใหม่เพื่อความมั่นคงของเกษตรกรไทย

ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทยจากการส่งออก แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะลมพายุในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ผลทุเรียนร่วงหล่น สร้างความเสียหายต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรอย่างมาก

ทำให้ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย, (สำนักงาน คปภ.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมมือกันพัฒนาระบบ โดยนำ “ความเร็วลม” มาเป็นดัชนีในการประเมินความเสียหายและจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการใช้ดัชนีดังกล่าวในระบบประกันภัยการเกษตร แทนที่จะใช้เพียงปริมาณน้ำฝนเหมือนในอดีต

ทั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบประกันภัยภาคการเกษตรให้ครอบคลุมความเสี่ยงแบบก้าวหน้า ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่แม่นยำจากการใช้วิทยาศาสตร์และระบบสารสนเทศด้านการเกษตรที่สมบูรณ์ รองรับและตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะส่งเสริมการให้ความคุ้มครองและดูแลเกษตรกรไทย ซึ่งหลังจากนี้จะผลักดันขยายผลไปยังสินค้าเกษตรชนิดอื่น ๆ ต่อไป

จาก “ปริมาณน้ำฝน” สู่ “ความเร็วลม” ก้าวสำคัญของประกันภัยเกษตรไทย

ในอดีตที่ผ่านมา การประกันภัยพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นข้าว ลำไย อ้อย หรือมันสำปะหลัง มักใช้ “ปริมาณน้ำฝน” เป็นดัชนีภูมิอากาศหลักในการคำนวณความเสียหายเพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม สำหรับทุเรียนซึ่งมีความเสี่ยงหลักจากลมพายุที่ทำให้ผลร่วงหล่นในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว จึงมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า “WiMaRC: ไวมาก” ซึ่งใช้ “ความเร็วลม” เป็นดัชนีภูมิอากาศในการคำนวณความเสียหาย

 

ที่มารูปภาพ: IoT WiMarC Farm

 

เนื่องจากเป็นแนวคิดใหม่ที่ยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้วัดระดับความรุนแรงของลมที่ส่งผลให้ผลทุเรียนหลุดร่วง จึงมีการจัดทำสนามทดลอง (Sandbox) เพื่อติดตั้งเซนเซอร์วัดความเร็วลม และหาจุดติดตั้งที่เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่และร่องลม พร้อมพัฒนาระบบภูมิสารสนเทศเพื่อรองรับการคำนวณหาค่าความเร็วลมวิกฤต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนารูปแบบประกันภัยและกำหนดอัตราเบี้ยประกันต่อไป

“WiMaRC ไวมาก” เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการเกษตรยุคใหม่

“WiMaRC” หรือ “ไวมาก” คือเทคโนโลยีไร้สายที่พัฒนาโดย เนคเทค สวทช. เพื่อติดตามสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการทำการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกแบบเรียลไทม์ ระบบนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบข้อมูล วางแผนการเพาะปลูก และสั่งการอุปกรณ์ IoT ในพื้นที่ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมได้ง่ายๆ จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน

 

ที่มารูปภาพ: IoT WiMarC Farm

 

จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ ได้แก่

• ความสะดวกในการใช้งาน สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมได้ทุกที่ ทุกเวลา
• ควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ IoT ได้จากระยะไกล
• นำฐานข้อมูลมาพัฒนาและวางแผนการทำเกษตรแม่นยำ
• ประยุกต์ใช้งานได้กับหลายพื้นที่

การทำงานของระบบและแผนการพัฒนาในอนาคต

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเนคเทค ได้นำระบบ “WiMaRC: ไวมาก” ซึ่งเป็นระบบตรวจวัดด้วยเซนเซอร์แบบเครือข่ายไร้สาย เพื่อการจัดการและควบคุมอัตโนมัติ มาใช้ในโครงการนี้ ระบบทำงานภายใต้ Platform IoT และแสดงผลแบบเรียลไทม์ เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกผ่านโทรศัพท์มือถือ

ในระยะแรกของโครงการจะเน้นการตรวจวัดความเร็วลม ทิศทางลม ความเข้มแสง และความชื้นอากาศเป็นหลัก ส่วนในระยะถัดไป จะมีการเพิ่มเติมการใช้เซนเซอร์ความชื้นดิน ร่วมกับการตรวจวัดปริมาณน้ำฝน และนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการวิเคราะห์ คาดการณ์ เพื่อแจ้งเตือนเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที
ข้อมูลที่ได้จากระบบ “ไวมาก” จะถูกนำมาแปลผลร่วมกับข้อมูลของ GISTDA และสำนักงาน คปภ. เพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้ไปจัดทำเป็นเครื่องมือในการให้บริการรับประกันภัยผลผลิตทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรได้อย่างเหมาะสมต่อไป

ก้าวสำคัญของการประกันภัย สร้างความมั่นใจให้เกษตร

การพัฒนาระบบโดยใช้ “ความเร็วลม” เป็นดัชนีภูมิอากาศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการประกันภัยภาคเกษตรไทย ที่มุ่งสร้างความมั่นคงและลดความเสี่ยงให้กับเกษตรกร โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
นอกจากจะช่วยให้เกษตรกรได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความเสี่ยงที่แท้จริงแล้ว ยังสามารถใช้ข้อมูลจากระบบดังกล่าวในการวางแผนการเพาะปลูก และบริหารจัดการสวนทุเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการเกษตรไทยในระยะยาว

สำหรับเกษตรกรที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี “WiMaRC ไวมาก” สามารถค้นหารายละเอียดได้ที่ https://www.bcg.in.th/bcg-delight-wimarc/ หรือติดต่อสอบถามไปยังเนคเทค สวทช. ซึ่งพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ที่สนใจ

อ้างอิง: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), GISTDA , IoT WiMarC Farm

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ