วิกฤตการค้าโลก ทำไมสินค้าส่งออกเวียดนาม ถึงตกเป็นเป้าหมายการไต่สวน

ในปี 2567 เวียดนามกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของการไต่สวนมาตรการปกป้องทางการค้า (Trade Remedies) ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปกป้องทางการค้าที่ขยายตัวทั่วโลก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOIT) รายงานว่ามีการเริ่มต้นไต่สวนทั้งหมด 28 กรณี ครอบคลุมสินค้าส่งออกใน 12 ตลาด โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีการไต่สวนถึง 13 กรณี การขยายตัวของนโยบาย Protectionism นี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อมูลค่าการ ส่งออกของเวียดนาม แต่ยังสร้างความซับซ้อนในกระบวนการค้าโลกในภาพรวม

แนวโน้มการไต่สวนและมาตรการปกป้องทางการค้า
จากข้อมูลจนถึงปัจจุบัน มีการไต่สวนมาตรการปกป้องทางการค้ากว่า 270 กรณี โดยแบ่งเป็นมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) 148 กรณี มาตรการปกป้อง (Safeguard) 54 กรณี การตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Circumvention) 38 กรณี และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Anti-Subsidy) 30 กรณี ปี 2567 นับเป็นปีที่มีจำนวนการไต่สวนสูงเป็นอันดับสองรองจากปี 2563

ด้านการเพิ่มความซับซ้อนของการไต่สวน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาเริ่มดำเนินการไต่สวนการอุดหนุนข้ามพรมแดน (Cross-border Subsidy) สำหรับสินค้าแผงโซลาร์เซลล์และแคปซูลจากเวียดนามเป็นครั้งแรก หลายประเทศยังใช้มาตรการผสม เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนในสินค้าเดียวกัน การไต่สวนที่ซับซ้อนเหล่านี้เพิ่มต้นทุนการดำเนินงานและความไม่แน่นอนให้กับผู้ส่งออก

ในบทบาทของรัฐบาลเวียดนาม กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System) เพื่อช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือกับการไต่สวนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพัฒนากลยุทธ์การส่งออกใหม่ ๆ เพื่อลดความเสี่ยง เช่น การขยายตลาดส่งออกและเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการผลิต

การที่เวียดนามเผชิญกับการไต่สวนในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย และแคนาดา สินค้าส่งออกที่ถูกตรวจสอบครอบคลุมทั้งสินค้ามูลค่าสูง เช่น แบตเตอรี่โซลาร์เซลล์ (4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ) และสินค้ามูลค่าต่ำ เช่น จานกระดาษ (9 ล้านเหรียญสหรัฐ) การที่เวียดนามใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดโลกและสร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมในประเทศผู้นำเข้า ส่งผลให้เกิดการไต่สวนมาตรการปกป้อง

สำหรับโอกาสและแนวทางในอนาคต นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าปี 2568 การเมืองและเศรษฐกิจโลกจะยังคงเปลี่ยนแปลง ประเทศต่าง ๆ จะเพิ่มมาตรการปกป้องเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศ ตลอดจนขยายความซับซ้อนในกระบวนการไต่สวน ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้น

ข้อแนะนำผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออก

• ศึกษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบ อย่างใกล้ชิดในตลาดเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไต่สวน
• พัฒนากลยุทธ์การส่งออกระยะยาว ที่เน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าและลดต้นทุนด้านความเสี่ยง
• ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตให้โปร่งใสและยั่งยืน
• ขยายตลาดส่งออก เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดที่มีความเสี่ยงสูง

การเผชิญหน้ากับมาตรการปกป้องทางการค้าเป็นความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคที่การค้าโลกเต็มไปด้วยการแข่งขัน เวียดนามและประเทศที่พึ่งพาการส่งออกจำเป็นต้องปรับตัวด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและขยายโอกาสในอนาคต