อาหาร-เครื่องดื่ม

10 เทรนด์อาหาร-เครื่องดื่ม ปี 2026 โอกาสทองของนักลงทุนและสายกิน

อาหาร-เครื่องดื่ม เป็นสิ่งที่ผู้คนต้องรับประทานในทุกวัน และเทรนด์เหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงไปอยู่เรื่อย ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องตามให้ทันตลอดเวลา

 

Innova Market Insights บริษัทวิจัยตลาด เผยแนวโน้มอาหาร-เครื่องดื่มปี 2026 โดยสะท้อนถึงการผสมผสานของปัจจัยที่จะขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมผ่าน 4 เสาหลัก ได้แก่ ประโยชน์ต่อสุขภาพ, ความเพลิดเพลิน, ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และราคาที่จับต้องได้ ซึ่งมีทั้งหมด 10 ประเด็นด้วยกัน ชี้ให้เห็นทั้งแรงขับเคลื่อนระดับโลก แนวโน้มมหภาค เทรนด์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ แนวโน้มผู้บริโภค ตลอดจนนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่มีความเชื่อมโยงกัน

 

 

เทรนด์ที่ 1 “Powerhouse Protein”

งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการโปรตีนในรูปแบบที่แตกต่างกันสำหรับโอกาสที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนสุขภาพโดยรวม ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคทั่วโลกพยายามเพิ่มโปรตีนในอาหารอย่างจริงจัง โดยมองหานม และเครื่องดื่มนมที่เป๋นผลิตภัณฑ์ที่ชูจุดเด่นเรื่องของโปรตีนเป็นอันดับต้น ๆ

 

แบรนด์สินค้าสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการหันมาใช้การอ้างถึงคุณประโยชน์บนฉลากที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การสนับสนุนกล้ามเนื้อ หรือการสนับสนุนผู้ที่ใช้ยาต้านโรคอ้วนกลุ่ม GLP-1 รวมถึงการใช้กลยุทธ์การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง เช่น โปรตีนสมบูรณ์แบบ, กรดอะมิโนจำเป็น, การซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ตลอดจนการสื่อสารประโยชน์ตามแหล่งที่มาของโปรตีน

 

เทรนด์ที่ 2 “Gut Health Hub”

ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับระบบลำไส้ เพราะมีผลต่อสุขภาพโดยรวม ทั้งในเรื่องภูมิคุ้มกัน, พลังงาน และผิวพรรณ เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จึงหันมาส่งเสริมประโยชน์ด้านสุขภาพลำไส้ที่ครอบคลุมขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวอ้างถึงโปรไบโอติก และพรีไบโอติก รวมถึงบอกเล่าถึงประโยชน์ที่จับต้องได้ เช่น การบรรเทาอาการไม่สบายท้อง ท้องอืด

 

เทรนด์ที่ 3 “Layers of Delight

การชูจุดเด่นบนผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มที่เปิดตัวใหม่จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ชอบสำรวจผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อแสวงหาความดื่มด่ำ สร้างเวลาที่น่าจดจำ, สร้างอารมณ์ แม้กระทั่งการสนับสนุนสุขภาพ เช่นเดียวกับการดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มอบประสบการณ์ในรูปแบบที่คุ้นเคย ผ่านองค์ประกอบที่น่าสนใจ เช่น รสชาติลึกลับ, ชั้นของเนื้อสัมผัส และส่วนประกอบที่ซื่อนอยู่

 

เทรนด์ที่ 4 “Beverages with Purpose

นวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเติบโตอย่างก้าวกระโดด หมวดหมู่เครื่องดื่มกำลังนำหน้าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในแง่ความลึก และความหลากหลายของนวัตกรรม ตัวอย่าง น้ำมะพร้าวรสชาติกลมกล่อมที่มาพร้อมอิเล็กโทรไลต์เพื่อความชุ่มชื้น หรือนมปรุงแต่งรสที่อุดมไปด้วยแคลเซียม และโปรตีนเพื่อบำรุงกระดูกฟัน และการเจริญเตอบโตของร่างกาย

 

เทรนด์ที่ 5 “Authentic Plant-Based

Plant-Based กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเลียนแบบโปรตีนจากสัตว์ไปสู่การมอบประโยชน์ทางโภชนาการในแบบของตนเอง โดยเฉพาะประโยชน์จากโปรตีนธรรมชาติ โดยเกือบ 2 ใน 3 ของผู้บริโภคทั่วโลกมองว่า ผลิตภัณฑ์จากพืชควรมีจุดเด่นในตัวเอง แทนที่จะเป็นเพียงสิ่งทดแทนอาหารอื่น ๆ เช่น protein bowl จากพืชที่เตรียมได้รวดเร็ว และพาสต้าสูตรใหม่ที่ทำจากถั่วลันเตา ถั่วเลนทิล และกะหล่ำดอก

 

เทรนด์ที่ 6 “Made for Moments”

แบรนด์กำลังให้ความสำคัญกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์เหมาะกับโอกาสต่าง ๆ นอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพ นวัตกรรมที่อิงตามโอกาสกำลังเติบโตขึ้น เห็นได้จากตัวเลือกที่หลากหลายในกลุ่มขนมขบเคี้ยว มื้ออาหารสด และขนาดสำหรับบริโภคครั้งเดียว เช่น อาหารสดและแช่แช็งสำหรับมื้อกลางวัน และมือค่ำ, ขนมขบเคี้ยวใช้บรรจุภัณฑ์แบบรับประทานครั้งเดียว

 

เทรนด์ที่ 7 “Worth Every Bite

ผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องนำเสนอคุณค่า และความคุ้มค่าที่จับต้องได้ โดยผสมผสานระหว่างราคาที่เหมาะสม และการเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งผู้บริโภคระบุว่าทั้งสองปัจจัยนี้เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา หลายคนชอบอาหารที่เรียบง่าย และตรงไปตรงมา โดยแบรนด์สามารถดึงดูดผู้บริโภคเน้นไปที่ราคาพิเศษ สูตรใหม่ การแปรรูปน้อยที่สุด

 

เทรนด์ที่ 8 “Mind Balance

ผู้บริโภคหันมาพึ่งพาอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อผลลัพธ์ตามธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต เช่น พลังงาน, การบรรเทาความเครียด และสุขภาพสมอง โดยกลุ่ม Millennials มีความกังวลเรื่องนี้สูงสุด ด้วยความเครียดที่เป็นปัญหาหลัก ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ชาอัดลมที่มีสารอะแดปโตเจนจากชาเขียว อัญชัน เห็ด lion’s mane เห็ดหลินจือ จึงได้รับความสนใจอย่างสูง

 

เทรนด์ที่ 9 “Crafting Tradition

ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการใช้และรักษาสูตรอาหารดั้งเดิมของวัฒนธรรมตนเอง ตัวอย่างนวัตกรรม ได้แก่ ซุปที่ใช้สูตรอาหารจากภูมิภาคเฉพาะของประเทศนั้น ๆ และผลิตภัณฑ์หมักดองที่ใช้วิธีการทางธรรมชาติแบบดั้งเดิมและส่วนผสมที่ปลูกในท้องถิ่น

 

เทรนด์ที่ 10 “Justified Choices”

ผู้บริโภคทั่วโลกต้องการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ ความยั่งยืนยังคงดึงดูดผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นสิ่งที่จับต้องได้สะท้อนความโปร่งใส และให้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเปิดตัวกาแฟออร์แกนิกใหม่ที่ตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรกรรายย่อยในการปกป้องระบบนิเวศ รับทราบถึงการทำงานอย่างหนักในการทำฟาร์มกาแฟออร์แกนิก

 

การรู้เทรนด์อาหาร-เครื่องดื่มในปี 2026 จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคาดการณ์ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

 

ที่มา: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ