ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังมาถึง เมื่อเทรนด์ EV ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกใหม่ของการเดินทาง แต่กำลังปฏิวัติวงการขนส่งทั้งระบบ ตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลไปจนถึงระบบขนส่งมวลชน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ กำลังเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจมากมายสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่ตลาด EV
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 8 โมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นจากการปฏิวัติครั้งใหญ่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมชี้ช่องทางให้ผู้ประกอบการ SME ได้ค้นพบโอกาสและแนวทางในการต่อยอดธุรกิจในยุคที่เทรนด์ EV กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการคมนาคมของโลก
นวัตกรรม EV เติบโตก้าวกระโดด
ต้องยอมรับว่า นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด สะท้อนได้จาก ข้อมูลการลงทุนล่าสุดเมื่อปลายปี 2023 จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่ได้อนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม EV รวมทั้งสิ้น 103 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 77,192 ล้านบาท
การลงทุนดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 18 โครงการ มูลค่า 40,004 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 9 โครงการ มูลค่า 848 ล้านบาท และรถบัสไฟฟ้าพร้อมรถบรรทุกไฟฟ้าอีก 3 โครงการ มูลค่า 2,200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในอุตสาหกรรมสนับสนุน ได้แก่ การผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน 39 โครงการ มูลค่า 23,904 ล้านบาท การผลิตชิ้นส่วนสำคัญ 20 โครงการ มูลค่า 6,031 ล้านบาท และการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า 14 โครงการ มูลค่า 4,205 ล้านบาท

นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
รัฐบาลยังได้ออกมาตรการสนับสนุนผ่านนโยบายภาษี โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการที่ใช้รถขนาดใหญ่อย่างรถโดยสารไฟฟ้า (E-Bus) และรถบรรทุกไฟฟ้า (E-Truck) ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังประกาศพระราชกฤษฎีกาจนถึงสิ้นปี 2025
นโยบาย 30@30 คือโอกาส SME
หลายคนอาจสงสัยว่า 30@30 คืออะไร เป็นนโยบายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2030 เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ทั้งนี้ จากการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับ SME โดยจะสร้างโอกาสเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานของ EV แต่อาจต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงธุรกิจเดิมเพื่อรองรับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ สิ่งที่ SME ควรทำ ได้แก่
– ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวทาง 30@30 เพื่อหาช่องทางโอกาสและพิจารณาจุดแข็งของธุรกิจ เพื่อปรับธุรกิจให้เตรียมตอบสนอง และมีความพร้อมอยู่เสมอ
– ประเมินศักยภาพของธุรกิจ เมื่อพบช่องทางแล้วจึงประเมินศักยภาพ
– พัฒนากลยุทธ์ เพื่อเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานของ EV
– หาข้อมูลและขอการสนับสนุนหรือพัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หาแหล่งเงินทุนและสถาบันทางการเงินที่จะช่วยหนุนให้การพัฒนาธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
แต้มต่อ SME ไทย จากมาตรการส่งเสริมการลงทุน
BOI พร้อมส่งเสริมการลงทุนของ SME ไทยให้เติบโตไม่ว่าจะเป็นการกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท อีกทั้งยังให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 2 เท่า เพื่อสร้างแต้มต่อและผลักดันศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ไทยให้แข่งขันได้ไม่ใช่เพียงแต่ธุรกิจสำหรับ EV เท่านั้น ยังรวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ อีก 400 กว่าประเภทกิจการอีกด้วย
8 ธุรกิจจากนวัตกรรม EV ที่น่าสนใจ ไม่คว้าไว้อาจเสียโอกาส
สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในสถานการณ์ที่โอกาสทางธุรกิจกำลังเปิดกว้าง SME สามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ในการพัฒนาแนวคิดและโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่เพียงสร้างรายได้แต่ยังเสริมสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ในระยะยาว รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ EV ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งในอนาคต โดย 8 ธุรกิจจากนวัตกรรม EV ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก มีดังนี้

นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
1. สถานีชาร์จไฟฟ้า หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ถือเป็น EV Ecosystem ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ผู้ประกอบการสามารถลงทุนตั้งสถานีชาร์จได้ทั้งแบบ Fast Charge หรือ Normal Charge ในจุดยุทธศาสตร์ เช่น ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร หรือถนนสายหลัก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม เป็นต้น
2. อู่ซ่อมบำรุงรถ EV เนื่องจากรถ EV มีระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนกว่ารถยนต์ทั่วไป การเปิดอู่บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการที่ได้รับการอบรมจากผู้ผลิตรถ EV และมีเครื่องมือที่ทันสมัย จะสามารถให้บริการทางด้านนี้ได้ หรืออาจเป็นโมเดลธุรกิจที่เติบโตได้มาก หากร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถ EV และสร้างศูนย์อบรมด้านการซ่อมบำรุงมาตรฐาน กระจายผู้เชี่ยวชาญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้
3. ธุรกิจดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) เป็นการนำรถยนต์เก่าที่ใช้น้ำมัน มาเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนใหม่ เพื่อเปลี่ยนจากการเติมน้ำมันมาเป็นระบบไฟฟ้า 100% โดยเปลี่ยนทั้งเทคโนโลยีที่ใช้จำนวนชิ้นส่วนจากชิ้นส่วนรถน้ำมัน 30,000 ชิ้น เมื่อเป็น EV จะลดลงเหลือเพียง 3,000 ชิ้นให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของ SME ไทย ในการต่อยอดสร้างธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งเป็นทางเลือกให้บรรดานักสะสมรถยนต์สะสมและบรรดารถยนต์คลาสสิกได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะว่าบริษัทเกิดใหม่มีไอเดียในการแปลงรถยนต์คลาสสิกเหล่านี้ให้หันมาขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้จนกลายเป็นธุรกิจใหม่ขึ้นมา
4. บริการด้านแบตเตอรี่ หัวใจหลักของรถ EV ธุรกิจนี้ครอบคลุมทั้งการขาย แลกเปลี่ยน และเช่าแบตเตอรี่ การผลิตแบตเตอรี่ OEM ผู้ประกอบการควรศึกษาเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างละเอียด และสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุม ยกตัวอย่าง การตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบเร็ว ๆ (Swapping Battery) คล้ายการเติมน้ำมัน โดยผู้รับบริการอาจมีค่ามัดจำแบตเตอรี่ลูกแรกเอาไว้ ซึ่งจะทำได้ต่อเมื่อรถที่รับบริการมีแบตเตอรี่ในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายและเร็วกว่าสำหรับรถมอเตอร์ไซค์
5. ตลาดอุปกรณ์เสริม EV ตัวช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่าง เป็นโอกาสทองสำหรับ SME ด้วยความนิยมของ EV ที่เพิ่มขึ้น ความต้องการอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็เพิ่มตาม เช่น สายชาร์จที่ทนทาน รองรับการใช้งานหนักทุกสภาพอากาศ หรือแท่นชาร์จที่ติดตั้งง่ายและปลอดภัยในบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ การพัฒนาและจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว โดยเน้นคุณภาพ ความทนทาน และการออกแบบที่ใช้งานได้จริง จะช่วย SME เจาะตลาดที่กำลังเติบโตนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. แพลตฟอร์ม รวบรวมข้อมูลสถานีชาร์จ บริการเช่ารถ EV และบริการอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มเดียว (Aggregator) จะช่วยให้ผู้บริโภคค้นหาและใช้งานรถ EV ได้สะดวก โดยคาดว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ จะได้รับควานิยมอย่างมากจากผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดนั่นเอง
7. ธุรกิจให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถโดยสารและรถขนส่ง (Ride-hailing) ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานในเขตเมือง ธุรกิจนี้สามารถขยายฐานลูกค้าด้วยการจับมือกับบริษัทขนส่ง หรือห้างสรรพสินค้า หรือแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ
8. ธุรกิจจัดการแบตเตอรี่รถ EV ที่หมดอายุ (Recycling) ให้ใช้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั่วไปแล้ว รถ EV จะมีอายุการใช้อยู่บนท้องถนนเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี แต่แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่านั้น หลังจากใช้งานไปได้ 10 ปี หากแบตเตอรี่อยู่ในสภาพดีจะยังกักเก็บไฟฟ้าได้ราว 70-80% ของความจุที่กำหนดเดิม
ซึ่งสามารถถอดแบตเตอรี่ออกจากรถเพื่อนำมาใช้ทำอย่างอื่นต่อได้ เช่น ทำเป็นสถานีชาร์จและกักเก็บพลังงานหมุนเวียน ที่สามารถนำไปใช้ในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต หรือในที่อยู่อาศัย หรือทำเป็นเครื่องสำรองไฟ (UPS) หรือมอเตอร์ไซด์ ที่ใช้แบตเตอรี่จากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใช้งานแล้ว ซึ่งในอนาคต คาดว่าจะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อย่างมากทีเดียว

นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
SME ที่สนใจลงทุนต่อยอด ในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ควรพิจารณาอะไรบ้าง
สำหรับ SME ที่สนใจลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า หรือเทรนด์ EV มีแนวทางพัฒนาธุรกิจเทรนด์ EV ดังนี้
1. ศึกษาตลาดและเทคโนโลยีรถ EV อย่างละเอียด
– วิเคราะห์แนวโน้มตลาดรถไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศ
– ติดตามความก้าวหน้าเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน
– ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการใช้รถ EV
– ประเมินคู่แข่งและช่องว่างทางการตลาด
2. เลือก Business Model ที่เหมาะสม เช่น
– โมเดลการผลิตรถ EV
– โมเดลให้บริการชาร์จแบตเตอรี่
– โมเดลการดัดแปลงรถยนต์เก่าเป็น EV
– โมเดลผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ EV
– พิจารณาจากทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และงบประมาณของบริษัท
3. สร้างเครือข่ายพันธมิตร
– ประสานกับผู้ผลิตแบตเตอรี่
– เชื่อมโยงกับโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
– ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยวิจัย
– สร้างพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
4. พัฒนากลยุทธ์ดึงดูดลูกค้า
• นำเสนอจุดเด่นด้านประหยัดพลังงาน
• สร้างบริการหลังการขายที่ครอบคลุม
• ให้คำปรึกษาและอบรมการใช้งาน EV
• สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการสื่อสาร
• จัดทำโปรโมชันและสิทธิประโยชน์พิเศษ
5. ปรับตัวตามเทรนด์และกฎระเบียบ
• ติดตามนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า
• เตรียมพร้อมรับมาตรฐานความปลอดภัย
• ปรับกระบวนการผลิตตามข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม
• พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ทันเทคโนโลยี
6. แหล่งเงินทุนและสนับสนุนทางการเงิน
• กู้เงินจากธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ เพื่อการเปลี่ยนผ่าน (Transition) สู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
• ขอรับการค้ำประกันจาก บสย.
• สมัครรับทุนจากหน่วยงานนวัตกรรม
• แสวงหานักลงทุนร่วม
• สำรวจแหล่งเงินทุนระหว่างประเทศ
จะเห็นได้ว่า การเติบโตของนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการคมนาคมอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านการขนส่งส่วนบุคคลและขนส่งมวลชน โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบการ SME ที่เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของเทรนด์ EV สามารถต่อยอดธุรกิจได้หลากหลาย โดยควรเน้นการวางแผนอย่างรอบคอบ ติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง วิธีการดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มโอกาสความสำเร็จทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง: สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน, BOI, bangkokbiznews, posttoday, สมาคมสโมสรนักลงทุน
Post Views: 73