เทรนด์ Plant-based 2025 เส้นทางสู่รสชาติ สมจริง สุขภาพ และความยั่งยืน

ตลาดผลิตภัณฑ์จากพืช (plant-based) กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึงร้อยละ 23 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก Innova) ทำให้บริษัทและผู้ประกอบการ SME ทั่วโลกเร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ที่ใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งเราได้รวบรวมแนวโน้มการพัฒนาอาหาร Plant-based ในปี 2025 ดังนี้

1. การพัฒนารสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมจริงยิ่งขึ้น

ในปี 2025 คาดว่าจะเห็นการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในด้านการปรับปรุงรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหาร plant-based ให้ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์จากสัตว์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรตีนจากพืชชนิดใหม่ เช่น โปรตีนจากถั่ว Fava หรือเทคโนโลยีการหมักแบบชีวภาพ (precision fermentation) ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและกลิ่นรสที่ล้ำลึก

2. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนยังคงเป็นประเด็นหลัก โดยผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจะต้องลงทุนในระบบเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ซึ่งช่วยฟื้นฟูดินและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

3. ความหลากหลายในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์

ตลาด plant-based จะไม่ได้จำกัดอยู่ที่เนื้อเทียมเท่านั้น แต่จะขยายไปยังกลุ่มอาหารใหม่ เช่น อาหารทะเลจากพืช (plant-based seafood) ไข่เทียม และผลิตภัณฑ์นมจากพืช (plant-based dairy) ที่พัฒนาขึ้นจากวัตถุดิบหลากหลาย เช่น อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต และถั่วเขียว

4. การตอบโจทย์สุขภาพเฉพาะบุคคล

ขณะที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพเฉพาะตัว ปี 2025 อาหาร plant-based จะก้าวไปอีกขั้นด้วยการพัฒนาอาหารที่ตรงใจทั้งด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพสูง ไฟเบอร์ที่ช่วยเสริมระบบย่อยอาหาร หรือปราศจากสารก่อภูมิแพ้สำหรับกลุ่มที่ต้องการความปลอดภัย รวมถึงการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI และ Big Data เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภค เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างแม่นยำแบบเฉพาะรายบุคคล

5. ต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง

ในปี 2025 การลดต้นทุนการผลิตของอาหาร plant-based จะเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่ความฝัน ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในงานวิจัยและพัฒนา รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตให้ทันสมัย ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงแค่ช่วยเปิดประตูให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถลิ้มลอง แต่ยังช่วยสร้างการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด ด้วยเหตุนี้ อาหาร plant-based จะไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจอีกด้วย

ด้วยทิศทางการปรับตัวของอุตสาหกรรม plant-based นี้ ผู้ประกอบการ SME ควรเริ่มต้นลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การหมักชีวภาพหรือการใช้ AI มาปรับใช้ในกระบวนการพัฒนาและผลิตสินค้า สร้างจุดขายที่แตกต่างอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น การใช้วัตถุดิบท้องถิ่น หรือการเน้นความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการผลิต การสื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ โดยสามารถร่วมมือกับสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อพัฒนานวัตกรรมและลดต้นทุนการผลิต พร้อมศึกษาตลาดในระดับสากลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ เช่น ตลาดเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกา